วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2551

รู้ไหมว่า วันที่ 3/14 เวลา 1:59pm ควรทำอะไร ?



" 3.1415926535897932384626433832795028841971693993751058209 7494459230781640628620899862803482534211706798214808651 3282306647093844609550582231725359408128481117450284102 7019385211055596446229489549303819644288109756659334461 2847564823378678316527120190914564856692346034861045432.... "

ใครตอบได้บ้างเลขข้างบนคืออะไร?

สำหรับผู้ที่ผ่านการคำนวณหา พื้นที่วงกลม และ เส้นรอบวงมาแล้ว คงรู้ว่ามันคือค่าของ Pi
หรือที่ตอนเด็ก ๆ ท่องกันว่า มันมีค่าเ่ท่ากับ 22/7 หรือ 3.1416 นั่นเอง
แต่แท้จริงแล้วค่าของ Pi สามารถหาเลขในจำนวนทศนิยมได้ไม่รู้จักจบสิ้น
ใครที่สนใจอยากดูค่า Pi ถึง ล้านตัวเลข ลองดูได้ที่นี่

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ค่า Pi มากกว่านี้ คือมันเป็นสัดส่วนระหว่างระหว่างเส้นรอบวงกลม กับ ความยาวเส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลมนั้น ๆ ไม่ว่าวงกลมจะเล็กจะใหญ่ขนาดไหน เมื่อเอามามันมากลิ้งบนพื้น โดยเริ่มต้นจากจุด จุดหนึ่งบนเส้นรอบวงนั้น เมื่อมันหมุนจนวนรอบกลับมาจุดเดิมอีกครั้ง ระยะที่หมุนได้จะเท่ากับ ค่า Pi คูณกับเส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลมนั้นเสมอ และนี่คือที่มา ของสูตร 2*Pi*r




สำหรับวันที่ 03/14 (เขียนตามระบบอเมริกัน ที่เอาเดือนขึ้นก่อนวันแล้วตามด้วยปี) หรือวันที่ 14 มีนาคม ของทุกปี ได้ถูกจัดขึ้นให้เป็นวัน Pi Day (ด้วยที่วันนี้มันเขียนได้เป็น 3.14 ได้ั้นั่นเอง) วัน Pi Day ได้เริ่มมีการเฉลิมฉลองครั้งแรกในปี 1988 โดยคุณ แลรี่ ชอว์ (Mr. Larry Shaw) ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งในซานฟรานซิสโก ปัจจุบันคุณลุงแลรี่ ชอว์ เกษียณอายุจากงานแล้ว แต่ก็ได้รับการขับขานว่าเป็น เจ้าชายแห่งไพ ("Prince of Pi")

Larry Shaw the founder of Pi Day

สำหรับการฉลอง Pi Day นี้ก็ทำง่าย ๆ ที่เวลา บ่ายโมงห้าสิบเก้านาที (1:59 pm) (=3.14159) ทุกคนก็จะเริ่มกินขนมไฟน์ ถ้าอยากจะระลึกถึงค่า Pi มากขึ้นก็ตัดไปกินไป และคำนวณหาจุดที่จะตัดเพื่อให้ทุกคนได้กินขนมไพน์ขนาดเท่า ๆ กัน

:-)




ยังมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกันวัน Pi Day อีกบ้าง อย่างเช่น มหาวิทยาลัยเอ็มไอที (M.I.T.)
มักจะส่งหนังสือตอบรับให้กับผู้ที่สมัครเข้ามหาวิทยาลัยในวันนี้

นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันเกิดของ อัลเบิรต์ ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) อีกด้วย



เกร็ดข้อมูลเพิ่มเติม

นอกจากวันที่ 3/14 นี้แล้ว
บางที่ก็มีการฉลองวันค่าคร่าว ๆ ของ Pi ที่วัน 22/7 หรือวันที่ 22 กรกฏาคม
และ วันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นวันที่ 314 ของปีอีกด้วย


Web Site เกี่ยวกับ Pi Day

Pi Day Rap ร้อง Rap วัน Pi Day

ข้อมูลและภาพประกอบส่วนใหญ่จาก wikipedia



===

คุยกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2551

ล้างสิ่งสกปรก

STAIN REMOVAL

Introduction

  • Never use very hot water for washing stained garments as this often sets the stains and makes them very difficult or impossible to remove.
  • Some stains are more easily removed by washing if they are soaked first in cold water, e.g. mud and blood stains, and the brown stain from shoe inner soles.
  • The use of chemicals is required for removing certain stains. Carry out this treatment before washing. Remove all traces of the chemical.
  • To apply a stain removing agent to fabric, place a fold of clean rag underneath the stain so that any surplus moisture is absorbed.
  • To prevent a ring forming around the stain, work from the outside of the stain, in an uneven circular shape, towards the centre, dabbing it very lightly with a pad of clean rag which has been dipped in the removal agent.
STAIN REMOVAL CHART
BLOOD Soak in cold salted water (1 teaspoonful to 1 pint) for at least an hour. Wash in warm soapy water.
COCOA/COFFEE/FRUIT JUICE Sponge with a warm solution of borax and water.
Rinse well and wash according to fabric.
COD-LIVER OIL Use a grease solvent and wash in soapy water.
EGG: WHITE Soak in cold water, then treat with lukewarm salt solution (1 teaspoon to 1 pint)
EGG: YOLK Wash according to fabric and remove the greasy mark with a grease solvent.
GRASS Dab with surgical methylated spirit over an absorbent pad. Wash according to fabric.
TEST RAYON BEFORE TREATMENT.
GREASE (1) Use a grease solvent, i.e. benzene or carbon tetrachloride.
(2) A surface grease may be removed by putting the fabric between blotting paper and pressing with a hot iron.
INK (BALL-POINT) Dab with methylated spirit over an absorbent pad. Wash according to fabric.
INK (WRITING) Wash at once. On white fabric, steep in milk, on any other colour fabric cover the stain with tomato juice. Wash again.
IRON RUST Soak stain in lemon juice. Rinse and wash.
LIPSTICK Wash in warm soapy water. Apply grease solvent, if necessary.
MILK Wash in warm soapy water, rinse well. Then treat with a grease solvent.
MUD Allow to dry. Brush. Soak in cold water. Wash according to fabric.
NAIL VARNISH Rub gently with acetone (not suitable for rayon).
PERSPIRATION Sponge with a weak vinegar solution. Wash according to fabric.
PAINT Rub with turpentine.
SCORCH Slight scorch marks may be treated with a solution of borax and water. Rinse and wash according to fabric.
SHOE POLISH Sponge with turpentine and wash according to fabric. If any colour remains sponge with methylated spirit and wash again.
TEST RAYON BEFORE TREATMENT.
TAR Scrape off as much as possible and then treat with a grease solvent. Wash according to fabric.
TEA Rinse immediately with cold water and wash according to fabric.
For dried stain, damp with cold water and sprinkle with borax. Pour hot water through the stain. Rinse well and wash according to fabric.
TRANSFER Steep in surgical methylated spirit.
Try a commerical dry-cleaning agent. Wash after treatment if possible.



From University of New South Wales

สวดมนต์ ทำกรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ

หนังสือธรรมะ แจกฟรี


download

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2551

เวลาที่หายไป



วันนี้วันอาทิตย์ที่นี่ หรือเป็นเวลาเช้าวันจันทร์ที่เมืองไทย
ส่วนใหญ่แล้วผมจะนั่งเขียนบทความเอง
ไม่ได้ตัดข่าวเหมือนดังช่วงกลางสัปดาห์อย่างที่เคย

สำหรับสัปดาห์นี้ มีเรื่องแปลกหน่อย ให้ชื่อเรื่องว่า "เวลาที่หายไป"

เพราะเวลาของผม หายไปหนึ่งชั่วโมงจริง ๆ

ระหว่างที่นั่งทำงานอยู่เมื่อเวลา ตีสอง (2:00 น.) ของวันอาทิตย์ เข็มเวลาของคอมพิวเตอร์ก็เด้งไปที่ ตีสาม (3:00 น) โดยอัตโนมัติ ช่วงเวลา ตีสอง ถึง ตีสาม หายไปอย่างเรียกคืนไม่ได้ และไม่มีมาให้ผมได้ใช้เวลา

เหตุผลทำอย่างนี้ก็เพื่อจะได้ให้เห็นแสงอาทิตย์ในช่วงค่ำได้นานขึ้น
หรือที่เรียกว่าเป็น Daylight Saving นั่นเอง เนื่องจากช่วงนี้กำลังจะเข้าฤดูร้อน พระอาทิตย์จะขึ้นเช้ามาก จากตีห้าเป็นตีสี่ และจะตกราว ๆ สองทุ่ม ถ้าปรับเวลาเร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมงเราก็จะเห็นพระอาทิตย์ตอนหกโมงเช้า และเห็นพระอาทิตย์ตกราว ๆ สามทุ่ม ทำให้ในช่วงหัวค่ำก็ยังมีแสงอาทิตย์อยู่ สามารถเล่นกีฬา ทำกิจกรรม ได้มากมาย รวมทั้งประหยัดไฟฟ้าในครัวเรือนได้อีกด้วย

เสร็จแล้วเดี๋ยวพอเข้าฤดูหนาว เขาก็ปรับกลับมาเหมือนเดิมอีกที

ด้วยการทำอย่างนี้ แม้โดยส่วนตัว ผู้คนจะมีเวลาหายไป แต่สิ่งที่ได้โดยรวมคุ้มกว่ามาก ทั้งทางด้านการประหยัดไฟ ลดอาชญากรรม และ สุขภาพ (ได้รับแสงแดดมากขึ้น และออกกำลังมากขึ้น)


ผู้ที่เสนอ แนวคิดนี้ ก็คือ คุณเบญจามิน แฟรงกิน (คนที่ชักว่าวทดสอบไฟฟ้า คนที่เป็นต้นกำเนิดแนวคิดการบริหารเวลาแบบตั้งเป้าหมาย คนที่หลุมฝังศพของเขาอยู่ในเมืองบอสตั้น ฯลฯ) เขาเสนอแนวคิดนี้ในปี พ.ศ. 2327 โดยชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ทำให้เป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่พอสมควร
ในขณะนั้น เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวนาชาวสวนไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับ ซ้ำร้ายทำให้การนัดหมายของพวกเขาอาจคลาดเคลื่อน

"ระหว่างการอภิปราย​ใน​สภา​ ​มีสมาชิกคนหนึ่งที่​ไม่​เห็น​ด้วย​ ​พร้อมยกตัวอย่างว่า​ ​ตอนเปลี่ยน​จาก​เวลาถนอมแดดมา​เป็น​เวลามาตรฐาน​ (หมุนนาฬิกาถอย​ 1 ​ชม​.​ตอนตีสอง​ ​ก่อน​จะ​เข้า​หน้าหนาว) ​ถ้า​บังเอิญมีหญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์​แฝดเกิดคลอดลูกคนแรกเวลา​ 01.58 ​น​. ​คนที่สองคลอดตามคนแรก​ 10 ​นาที​ ​แต่พอตีสอง​ ​เขา​ลดเวลา​เป็น​ตีหนึ่งตามที่กฎหมายกำ​หนด​ไว้​ ​ลูกคนที่สองก็​จะ​ถือว่า​เกิดเวลา​ 01.08 ​น​. ​กลาย​เป็น​ว่าคนน้องกลาย​เป็น​พี่​ ​อาจ​จะ​มีผลไป​ถึง​การแบ่งมรดก​ด้วย"

ก็เป็นเรื่องบังเอิญวุ่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการปรับเวลา


ในประเทศไทย คงไม่ได้ทำอย่างนี้ เพราะว่าเป็นประเทศติดเส้นศูนย์สูตร วันและคืนไม่ต่างกันมาก ทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน แต่ผู้เขียนเคยได้ยินว่า มีแนวคิดที่จะปรับเวลาให้ตรงกับสิงคโปร์ เพื่อจะได้ ให้ตลาดหุ้นเปิดพร้อมกัน ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ และคงเป็นเรื่องที่ได้ถกเถียงกันอีกแน่นอน


สำหรับช่วงนี้ บอสตั้น กับ ประเทศไทย เวลาจึงห่างกันแค่ 11 ชั่วโมง
(ไม่ใช่แค่กลับวันและคืน แต่เข็มเวลาเหมือนกัน ดังที่แล้วมา)

ข้อมูลจาก
wikipedia
วิชาการ.com




+++++++++++++
หลังจากมานั่งเสียดายเวลาที่หายไปแล้ว
เลยอยากจะจัดตารางเวลาให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นบ้าง

เลยหาข้อมูลเพิ่ม และได้มีโอกาสเข้าไปอ่านบทความดี ๆ ที่ blog ของ คุณบารมี
​นวนพรัตน์สกุล
ขออนุญาตตัดตอนเฉพาะเรื่อง "อีก 100 วันผมจะตาย" มาให้อ่านกัน

ใครที่ต้องการอ่านบทความเต็ม เชิญที่ http://baramee.wordpress.com/


=====
​"มีคนที่รักผมมากๆ​ ​คนหนึ่งมัก​จะ​ส่งบท​ความ​เกี่ยว​กับ​การดู​แลตัวเอง​และ​สุขภาพมา​ให้​อ่านเสมอ​ ​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เรื่องการบริหารเวลา​ ​การ​ใส่​ใจ​ใน​สุขภาพของตัวเอง​ ​การ​ใส่​ใจคนรอบข้าง​ ​ฯลฯ​ ​เพราะ​ส่วน​ตัว​แล้ว​ผมมีปัญหาสุขภาพที่จำ​เป็น​ต้อง​พักผ่อนอย่างเพียงพอ​ ​แต่​ใน​ความ​เป็น​จริง​แล้ว​ ​ไม่​ว่า​ใครก็ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ​ ​มิฉะ​นั้น​แล้ว​ ​จาก​คนสุขภาพดีก็​จะ​กลาย​เป็น​คนสุขภาพแย่​ได้​ใน​ไม่​ช้า

​บท​ความ​ล่าสุดที่ผม​ได้​รับมา​ ​เป็น​บท​ความ​ของคุณสุทธิชัย​ ​หยุ่น​ ​ใน​ชื่อ​ “​กา​แฟดำ​” ​ซึ่ง​เขียนลง​ใน​นิตยสารชีวจิต​ ​ฉบับ​วันที่​ 16 ​กุมภาพันธ์​ 2550 ​ชื่อเรื่องว่า​ “​เมื่อหมอบอกว่า​ ​เขา​มีชีวิตเหลือ​ 100 ​วัน​”

เรื่องนี้​เป็น​เรื่องจริง​ใน​สหรัฐอเมริกา​ ​ที่​เกี่ยวพัน​กับ​บุคคลหนึ่ง​ซึ่ง​ประสบ​ความ​สำ​เร็จ​ใน​หน้าที่การงาน​เป็น​อย่างมาก​ ​แต่วันหนึ่งหมอก็ตรวจพบว่า​เขา​เป็น​มะ​เร็งสมองระยะสุดท้าย​ ​และ​มี​เวลา​เหลืออีกเพียง​ไม่​เกิน​ 100 ​วัน​เท่า​นั้น​ ​เขา​ก็​ต้อง​จาก​ลา​โลกนี้​ไป

​ชาย​ผู้​นี้ชื่อ​ ยูจีน​ ​โอเคลลี่ ​อายุ​เพียง​ 53 ​ปี​เท่า​นั้น​ ​มีครอบครัวที่อบอุ่น​ ​ลูกสาวเพิ่งเรียนชั้นมัธยม​ ​แต่​เขา​แทบ​ไม่​เคย​ใช้​เวลา​กับ​ครอบครัวเลย​ ​ไม่​ได้​ทานข้าวเย็น​กับ​ภรรยา​ ​ไม่​เคยไปร่วมงานโรงเรียนของลูก​ ​เพียง​เพราะ​ให้​ได้​ตำ​แหน่งที่สูงขึ้น​และ​ราย​ได้​เพิ่มขึ้น​ ​ภาย​ใต้​คำ​พูดที่สวยหรูที่ว่า​ “​ก็​เพราะ​รักครอบครัว​”

​เมื่อ​ ยูจีน ​รู้​เช่นนี้​ ​จึง​ปรับกระบวนชีวิตของ​เขา​ใหม่​ทั้ง​หมด​ ​เพื่อ​ให้​เวลา​ 100 ​วันที่​เหลือ​อยู่​ถูก​ใช้​ไปอย่างคุ้มค่า​ ​แม้มันดู​เหมือน​จะ​สายเกินไปก็ตาม​ ​เขา​ถึง​ขั้นเขียนหนังสือเล่มหนึ่งก่อนตายที่ชื่อว่า​ “Chasing Daylight” ​เพื่อหวัง​ให้​เป็น​ประ​โยชน์​แก่คนที่ทุ่มเท​กับ​การสร้างเนื้อสร้างตัว​และ​ราย​ได้​เพื่อครอบครัว​ ​และ​มุ่งหวัง​กับ​สิ่งที่​จะ​เกิดขึ้น​ใน​อนาคต​ ​ให้​ตระหนัก​ถึง​สิ่งที่​เป็น​อยู่​ใน​ปัจจุบันบ้าง

​และ​สิ่งที่​ ยูจีน ​ค้น​พบก่อนตายก็คือคำ​ว่า​ “​ปัจจุบัน​” ​เพราะ​ที่ผ่านมาชีวิตของ​เขา​มี​แต่อดีต​และ​อนาคต​ ​แต่​ไม่​เคย​อยู่​กับ​ปัจจุบันเลย​ ​ไม่​เคย​ใช้​ชีวิต​กับ​สิ่งที่มี​อยู่​ตรงหน้า​เลย​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ก่อนตาย​ ยูจีน ​ก็​ได้​ใช้​เวลา​กับ​ครอบครัวอย่างเต็มที่​ ​เขียนจดหมายบอกลา​เพื่อนทุกคน​ ​พร้อม​ทั้ง​ขอบคุณที่​เป็น​เพื่อนอันแสนดี​ใน​เวลาที่​เขา​มีชีวิต​อยู่​ ​ฯลฯ

​ผมอ่านบท​ความ​นี้จบ​ ​ความ​รู้สึกเดิมๆ​ ​ก็กลับมาอีกครั้ง​ ​เพราะ​นี่​ไม่​ใช่​ครั้งแรกที่​ได้​รับบท​ความ​แนวนี้​จาก​คนที่รักผมมา​เสมอ​ ​เป็น​บท​ความ​ที่ดึง​ความ​สนใจของผม​ให้​กลับมา​ใส่​ใจ​ใน​ตัวเองบ้าง​ ​เพราะ​การ​ใส่​ใจ​ใน​ตัวเองย่อมหมาย​ถึง​การ​ใส่​ใจ​ใน​คนรอบข้างที่​ใกล้​ชิดเรา​เช่น​กัน"

นั่นก็คือ​ “​ครอบครัว​”

====

พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551

ปล่อยกลิ่นผลส้ม​ใน​ห้องขัง​ “​ขา​ใหญ่​” ​สูดดมเลิก​ ​ป่วน​ [4 ​มี​.​ค​. 51 - 00:37]

ตำ​รวจนครรอตเตอร์ดัมของฮอลแลนด์​เปิดเผยอย่างตื่นเต้นว่า​ ​อาชญากรหัวเห็ด​ ​ต่างๆ​ ​พา​กัน​สยบเลิกอาละวาด​ ​และ​ก่อการวิวาท​กัน​เองน้อยลง​ ​หลัง​จาก​ปล่อยกลิ่น​ ​ผลส้ม​ให้​พวก​เขา​ได้​หายใจสูดดม

ตามข่าวของหนังสือพิมพ์รายวัน​ “​เดลี่​ ​เทเลกราฟ​” ​ฉบับ​ดังของอังกฤษรายงานข่าวว่า​ ​หัวหน้าตำ​รวจฝ่ายบริการสังคม​ ​นายเอมา​ ​ฮีสเตอร์​ ​ได้​ทดลองเอากลิ่นผลส้ม​ ​ไปปล่อยออกตามช่องระบายอากาศ​ใน​เรือนจำ​ ​ที่​เป็น​แดนขังของพวกอาชญากรหัวเห็ด​ได้​สูดดม​ ​นาน​เป็น​

เวลา​ 1 ​เดือน​ ​ได้​แจ้งว่า​ “​ให้​ผลอย่างน่าประหลาดใจ​ ​การวิวาท​ใน​คุก​ได้​ลดลงไปอย่างน่าตื่นเต้น​ ​การก่อการอาละวาดน้อยลง​ ​พวกนักโทษก็​เชื่อฟังคำ​สั่งมากขึ้นกว่า​แต่ก่อน​ ​และ​ทำ​ให้​เราลดการจ่ายยาระงับประสาทต่างๆ​ลงไป​ได้​ 10%”

นครรอตเตอร์ดัม​เป็น​เมืองที่มีสถิติอาชญากรรมสูงสุดของฮอลแลนด์​ ​เนื่อง​มา​จาก​การกระทำ​ความ​ผิด​เนื่อง​มา​จาก​ยา​เสพติด​ ​ส่วน​ใหญ่​เป็น​พวกค้ายา​.


ที่มา ไทยรัฐ

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2551

ยอดนักอ่านศิลาจารึก ผู้เชี่ยวชาญด้านการคำนวณ








เป็น เรื่องน่ายินดีที่ประ เทศไทยของเรามีราชบัณฑิตอยู่มากมาย หลากหลายสาขาด้วยกัน ซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นปูชนียบุคคลที่น่าศึกษาด้วยกันทั้งสิ้น วาไรตี้วันอาทิตย์จะพาไปรู้จักนักปราชญ์แห่งราชบัณฑิตยสถาน...เริ่มกัน ที่ อาจารย์ ประเสริฐ ณ นคร ปรมาจารย์ด้านการอ่านศิลาจารึก

ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร เป็นผู้หนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการอ่านศิลาจารึก มีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับและอ้างถึงในวงวิชาการอย่างกว้างขวาง อาทิ การชำระประวัติศาสตร์สุโขทัย ถิ่นเดิมและตระกูลภาษาไทย หลักการสอบค้นเมืองสมัยสุโขทัย การแบ่งกลุ่มไทยตามตัวหนังสือ พจนานุกรมไทยอาหม ตัวอักษรไทยในล้านนา ที่มาของอักษรไทยล้านนาและไทยลื้อ นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งภายในและต่างประเทศ ไม่ต่ำกว่า 100 บทความ

ชีวิตในด้านการศึกษา อ.ประเสริฐ เท้าความให้ฟังว่า เมื่อจบมัธยมฯ 8 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ผมไม่มีเงินเพื่อที่จะเสียค่าเล่าเรียนให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ปีละ 20 บาท จึงคิดจะไปเป็นครูประชาบาล เงินเดือน 8 บาท เพื่อเก็บเงินมาเรียน ม.ธรรมศาสตร์ แต่บังเอิญ สอบชิงทุน ก.พ.ได้ไปเรียนวิชาเกษตรที่ฟิลิปปินส์จึงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีใน สาขาวิศวกรรมการเกษตรจากมหา วิทยาลัยฟิลิปปินส์

จากนั้นกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยเกษตร บางเขน สอนทางด้านคำนวณและวิศวกรรมการเกษตร อยู่ 12 ปี สอบได้ทุนไปเรียนปริญญาโทและปริญญาเอกทางวิชาสถิติและการผสมพันธุ์พืชที่ มหา วิทยาลัยคอร์แนล ประเทศสหรัฐอเมริกา

“ผมเป็นหนี้ตาสีตาสาเรื่องทุนเล่าเรียน จึงไม่เคยคิดหนีไปรับเงินเดือนสูง ๆ ที่อื่น และยังสอนหนังสือใช้หนี้ตาสีตาสามาจนทุกวันนี้” เป็นคำกล่าวของอาจารย์ที่วัยย่างเข้าสู่ 89 ปี

เริ่มสนใจด้านโบราณเมื่อครั้งที่ได้ทุนไปเรียนต่อที่คอร์แนล อยากรู้ว่าคนไทยมาจากไหน จึงไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด พบบทความที่ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ เขียนถึงชาติไทยเอาไว้ เมื่ออ่านดูแล้วรู้สึกว่าน่าจะมีข้อผิดพลาด รวมทั้งกลับมาเมืองไทย สังเกตว่า เมื่อพบศิลาจารึกในเมืองไทยก็มักจะส่งไปให้ เซเดส์ ที่กรุงปารีสอ่านและแปลให้เสมอ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ 70 ปีกว่าแล้ว ถ้าท่านเกิดเป็นอะไรไป นั่นหมายความว่าจะไม่มีใคร อ่านศิลาจารึกของไทยได้เลย จึงคิดว่าคนไทยจะต้องอ่านศิลาจารึกได้ ถ้าไม่มีใครอ่าน ผมคนนี้จะอ่านศิลาจารึกให้ได้ จึงเริ่มศึกษาศิลาจารึกตั้งแต่นั้นมา

เมื่อศึกษาแล้วพบว่า มีการอ่านศิลาจารึกผิดพลาดที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับชาติ ไทยอยู่หลายแห่ง รวมทั้งจารึกที่กล่าวถึงสมเด็จพระมหาธรรมราชายกทัพจากสองแควมาไหว้พระพุทธ บาท จึงเขียนจดหมายถึงเซเดส์ เมื่อเซเดส์อ่านพิจารณาแล้วเห็นว่าสิ่งที่ผมอธิบายถูกต้องจึงเห็นควรแก้ไข และยังบอกอีกว่าหากพบที่ผิดพลาดตรงไหนอีกก็ให้แจ้งมา จะได้แก้ไขเพิ่มเติมให้

“รู้สึกทึ่งในตัวเซเดส์ เพราะท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ระดับโลก ถ้าท่านจะไม่ตอบผม ทิ้งจดหมายเสียก็ได้ เพราะตัวผมก็ไม่ได้มีชื่อเสียงในการอ่านศิลาจารึกแต่อย่างใด แต่นี่ท่านยอมรับฟัง แสดงว่าท่านเป็นปราชญ์โดยแท้จริง”

ผมสนใจทางวิทยาศาสตร์ด้วย โดย ขอให้น้องชายที่เรียนอยู่ที่อังกฤษส่งตำรามาให้ ซึ่งได้ส่งเรื่องระเบิดอะตอมมิก เรื่องจักรวาลขยายตัว ตำราทฤษฎีเลขเฉพาะมาให้ จากการศึกษาเรื่องนี้ ทำให้เพื่อน ๆ เมื่อเห็นผม จะล้อว่า “อะตอมมิกบอมส์ มาแล้ว” ผมมานั่งคิดว่าเรามาจากนอกโลกหรืออย่างไร ไม่ได้อยู่ในโลกนี้หรือ เลยท้อถอย ประกอบกับเมื่อเราค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หนังสือและเครื่องมือก็ไม่มี อีกทั้งเมื่อพูดกับเพื่อน ๆ หรือคนอื่น ๆ ก็มักจะพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง บอกว่า ผมมาจากโลกไหน

จึงหันมาค้นคว้าทางภาษาไทย เมื่อ พ.ศ. 2486 ผมทำเรื่องโคลงนิราศหริภุญชัย และเรื่องนางนพมาศ พ.ศ. 2487 ซึ่งผมได้เลิกค้นคว้าทางภาษาไทยและประวัติศาสตร์ไปเป็นเวลา 16 ปี เพราะถูกปรามว่าการเขียนแก้ไขประวัติศาสตร์อาจทำให้ถูกคว่ำบาตรว่าเป็นลูก ศิษย์คิดล้างครู มาจนถึง พ.ศ. 2503 คุณธนิต อยู่โพธิ์ ขอให้ผมไปสัมมนาโบราณ คดีที่สุโขทัย ผมจึงกลับเข้ามาอยู่ในวงวรรณคดีและประวัติศาสตร์อีกครั้ง และเมื่อหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงขอให้ผมมาสอนวิชาการอ่านศิลาจารึกจนถึงครั้งที่ 3 ผมจึงรับสอนในมหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งแต่ พ.ศ. 2512 จนถึงปัจจุบันนี้

“ก่อนหน้าที่จะมาสอนเด็กอ่านศิลาจารึกกันไม่ได้ จึงนึกย้อนไปเมื่อเรียนที่ฟิลิปปินส์ วิชาจิตวิทยา อาจารย์บอกว่า คนเราจะต้องมีความสำเร็จถึงจะทำให้เกิดความสนใจ ผมมานั่งคิดดูว่าไม่ตรงกับทางพุทธศาสนาที่สอนไว้ว่า ต้องมี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา จะสำเร็จได้ต้องมีความสนใจ ถกเถียงกันอยู่นานก็ไม่ได้ข้อยุติ จึงนำแนวคิดนี้มาสอนเด็ก โดยแทนที่จะ เอาศิลาจารึกสันสกฤตที่ยาก ให้เด็กอ่าน ก็เอาหนังสือของประเทศลาวให้อ่าน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับอักษรไทย ผิดกันไปบ้าง เด็กรู้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ อีก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นศัพท์เฉพาะ ซึ่งเด็กสามารถเดาได้ เด็กจะอ่านได้ภายในครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง พวกเขาจะภูมิใจที่สามารถอ่านศิลาจารึกของลาวได้

จากนั้น จะเป็นศิลาจารึกที่ยากขึ้นไปเรื่อย ๆ ให้อ่านไปตามลำดับขั้น เด็กจะเกิดความภาคภูมิใจ อยากเรียนรู้ พอเอาอักษรขอมภาษาสันสกฤตให้อ่าน เด็กก็อ่านออกได้ นี่คือ เทคนิคในการสอนการอ่านศิลาจารึกของผม”

เนื่องจากผมชอบ การคำนวณ อยู่แล้ว จึงศึกษาทาง ด้านโหราศาสตร์ด้วย เมื่อครั้งเรียนอยู่ชั้นมัธยมฯ มีการดูดวง ชะตาราศีให้กับเพื่อน ๆ จึงมีความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์สุริยยาตร์ สามารถที่จะคำนวณได้โดยดูจากปฏิทินที่ทำขึ้นมา จะบอกว่าทุกปีในวันขึ้นเถลิงศก พ.ศ.นี้ จะตรงกับวันที่เท่าไร นอกจากนั้นยังบอกอีกว่าขึ้นกี่ค่ำ ซึ่งจะทำให้คำนวณได้

ทางด้านดนตรี ศ.ดร. ประเสริฐได้ แต่งเนื้อร้องทั้งเพลงไทยเดิม และเพลงไทยสากลอย่างละไม่ต่ำกว่า 30 เพลง ในจำนวนนี้ มีทำนองเพลงพระราชนิพนธ์ 5 เพลง คือ ใกล้รุ่ง ชะตาชีวิต ในดวงใจนิรันดร์ แว่ว และเกษตร ศาสตร์ เพลงที่ 3 และ 4 แปลมาจากเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ภาษาอังกฤษแบบวรรคต่อวรรค เพื่อรักษาพระราชดำริไว้ รวมทั้งได้แต่งทำนองเพลงสดุดีพระเกียรติ บรรจุเนื้อร้องภาษาอังกฤษของคุณพระช่วงเกษตรฯ โดยมีครูอวบ เหมะรัชตะ เป็นผู้ขัดเกลาทำนองเพลง และได้แปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทยไว้ด้วย

“ผมมักจะบอกนักศึกษาอยู่เสมอว่า คนไทยถ้าอยาก จะไปอยู่แนวหน้าสาขาใดได้ ทั้งหมด แต่คนไทยไม่เอาจริง เพราะถ้าเอาจริงก็จะต้องไปอยู่แนวหน้าได้ ขอให้เอาจริง ต้องได้แน่ ดูอย่างผม อยู่ทางคำนวณ ทางสถิติ แต่ตอนนี้ทุกคนคิดอย่างเดียวกันว่า ผมเป็นอาจารย์ เป็นครูทางภาษาไทย ได้เป็นปูชนียบุคคลทางครูภาษาไทย ได้เป็นนักเขียนอาวุโสดีเด่นของปี และนักแปลอาวุโสดีเด่น

แต่ถ้าจะให้ผมวาดภาพให้ คงต้องแสดงความเสียใจด้วย เพราะสมัยเรียนผมวาดภาพคะแนนเต็ม 10 ได้ 2 นี่เป็นเพราะว่า คนเรามีขีดจำกัดเหมือนกัน ถ้าตอนนี้ให้ผมไปวาดรูปก็คงจะยังได้ 2 คะแนน อยู่ดี” ท่านอาจารย์กล่าวอย่างมีอารมณ์ขันทิ้งท้าย

ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร คงเป็นตัวอย่างที่ดีได้กับประโยคที่ว่า “รู้อะไรให้เชี่ยวชาญเถิด จะเกิดผล”.

จุฑานันทน์ บุญทราหาญ



ที่มา เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2551

เพิ่งไปจับยาบ้าดต.ขับรถกลับ เหนื่อยหลับในชนท้าย6ล้อดับ [1 มี.ค. 51 - 04:33]



เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 29 ก.พ. ร.ต.ท.สมบูรณ์ ขอบโคกกรวด ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตบนถนนสายคลองห้า-บางขันธ์ หมู่ 6 ต.คลองสาม รุดไปตรวจสอบพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กง 1351 นครปฐม สภาพหัวทิ่มลงข้างทางพังยับเยิน ยางล้อหน้าและล้อหลังด้านซ้ายแตก ตรงเบาะนั่งคนขับพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ ด.ต.อดุลย์ เดชพ่วง อายุ 38 ปี ผบ. หมู่งานสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี ลักษณะศพคอพับมาทางเบาะซ้าย เลือดอาบใบหน้า อกยุบ คอหัก ศีรษะซ้ายมีแผลแตก มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ห่างกันเล็กน้อยพบรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 85-4016 นครราชสีมา จอดอยู่ข้างทาง โดยมีนายออ สวยกลาง อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 10 ต.พลสงคราม อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา คนขับยืน รอตำรวจด้วยสีหน้าตื่นตกใจ พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ขับรถบรรทุกขวดเปล่ามาเต็มคันรถ จากโรงงานบางกอก

กล๊าสเพื่อจะไปส่งที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ถึงที่เกิดเหตุรถเก๋งที่ ด.ต.อดุลย์ขับตามหลังมาด้วยความเร็วพุ่งชนท้ายอย่างจัง ก่อนที่รถเก๋งจะเสียหลักแฉลบหัวทิ่มข้างทาง เมื่อจอดรถลงไปดูพบว่าคนขับเสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ ขณะเดียวกันจากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ด.ต.อดุลย์พร้อมพวกได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาวางแผนล่อซื้อจับกุมแก๊ง ยาบ้า หลังจากนั้นแยกย้ายกันกลับที่พักกระทั่งมาประสบอุบัติเหตุ ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าขณะที่ ด.ต.อดุลย์ขับรถตามหลังรถบรรทุกอาจเกิดเสียหลัก หรือไม่ก็หลับในเพราะความอ่อนเพลียจากการที่ต้องปฏิบัติหน้าที่มาตลอดทั้ง คืน

ต่อมาได้มีนางมยุรี เดชพ่วง อายุ 31 ปี ภรรยา ด.ต. อดุลย์ที่ทราบข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นศพสามี นางมยุรีถึงกับโผเข้ากอดร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ พร้อมเปิดเผยว่าแต่งงานอยู่กินกับ ด.ต.อดุลย์ มีลูกด้วยกัน 2 คน ปกติสามีเป็นคนดีรักครอบครัว ไม่ดื่มสุรา ไม่เที่ยวเตร่ ก่อนหน้าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.พ. ด.ต.อดุลย์พาครอบครัวไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ระหว่างนั้นผู้บังคับบัญชาโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบว่ามีงานด่วนจับกุมแก๊ง ยาบ้า ด.ต.อดุลย์จึงรีบขับรถกลับพาตนและลูกไปส่งที่บ้านก่อนจะออกไปทำงาน กระทั่งมาทราบอีกทีว่าประสบอุบัติเหตุขับรถชนเสียชีวิต

ทางด้าน พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี เปิดเผยว่า ด.ต.อดุลย์เป็นตำรวจฝีมือดี มีอนาคตไกล ที่ผ่านมาเป็นคนตั้งใจทำงาน เป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน และยังเป็นนักฟุตบอลทีมตำรวจ ภ.จ.ปทุมธานี อีกด้วย ก่อนเกิดเหตุได้รับรายงานว่า ด.ต. อดุลย์พร้อมพวกวางแผนล่อซื้อยาบ้าในย่าน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1 พันเม็ด หลังจากนั้นได้ขับรถกลับบ้านพักห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก แต่ก็ต้องมาพบจุดจบเสียก่อน ทาง ภ.จ.จะได้ พิจารณาความดีความชอบเพื่อช่วยเหลือครอบครัวต่อไป


ที่มา ไทยรัฐ

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2551

[GTD] Task Management

สัปดาห์นี้ ขอเขียนเรื่องการบริหารจัดการงานให้เสร็จตามกำหนด เพราะผู้เขียนกำลังยุ่งอยู่กับงานหลาย ๆ อย่างที่ไม่เสร็จเสียที เลยต้องหาเครื่องมือมาช่วยจัดการ ช่วยเตือนเราว่า มีงานอะไรบ้างที่ต้องทำให้เสร็จ และเสร็จเมื่อไหร่

ตอนนี้ในต่างประเทศ เรื่อง ทำงานให้เสร็จ หรือ GTD อันย่อมาจาก Get Things Done กำลังเป็นเรื่องที่ได้รับการสนใจไปอย่างสูง เพราะใคร ๆ ก็อยากทำงานให้เสร็จ ให้มันจบ ๆ ไป ให้เสร็จ ให้ไว และมีประสิทธิภาพ ด้วยอาศัยเทคนิคและเทคโนโลยีก็ทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น

สำหรับ GTD นั้น มีเทคนิควิธีการมากมาย ที่จะช่วยให้งานเสร็จ ถ้าใครอยากลองอ่านเทคนิควิธีการต่าง ๆ ก็ลองหาอ่านได้ที่ LifeHacker.com ที่ GTD tag มีข้อมูลและเทคนิคต่าง ๆ มากมาย ก็ลองหาอ่านกันดูนะครับ สำหรับที่ จิต-ใจ-ดี นี้ก็จะพยายามคัดสรรเรื่องที่น่าสนใจ มาสรุปเป็นภาษาไทยอ่านง่ายให้ผู้อ่าน

วันนี้มี โปรแกรม ตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นโปรแกรมที่จะเก็บข้อมูลว่า มีงานใด ต้องทำให้เสร็จวันไหน ลำดับความสำคัญของงานเป็นอย่างไร ซึ่งโปรแกรมจะสามารถแจ้งเตือนเมื่อถึงวันที่กำหนดส่งให้ผู้ใช้งานทาง e-mail โปรแกรมนี้จัดได้ว่าเป็น web application ตัวหนึ่ง เพราะข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ที่ web site ผู้ใช้งานจึงสามารถ update ข้อมูลได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เพื่อให้ข้อมูลถูกปรับปรุงตรงกัน (Synchronize)

แถมโปรแกรมนี้ยังสามารถใ้ช้งานร่วมกับ Gmail เมื่อรับ e-mail มอบหมายงาน ก็สามารถสร้าง Task เก็บในโปรแกรมได้ทันที อีกทั้งสามารถแสดงผลในหน้า gmail แต่ทั้งนี้ ผู้อ่านต้องใช้ firefox เป็น web browser นะครับ สำหรับคนที่ใ้ช้ IE อยู่ ผมก็อยากแนะนำให้ลองใช้ firefox ดู เพราะว่าใช้งาน และป้องกัน spyware ได้ดีกว่า IE

ย้อนกลับมาโปรแกรม ที่กำลังพูดถึงกันอยู่ดีกว่า
สรุปว่ามันชื่อว่า remember the milk หรือ RTM นะครับ
หา ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

สำหรับการใช้งานร่วมกับ gmail และ firefox ก็จะทำให้ได้ gmail ดังรูป




สามารถ download firefox plugin ได้ที่นี่