กาลครั้งนึง . .
มีเด็กชายคนนึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยความรักความผูกพัน ของพ่อกับแม่
เมื่อเวลาผ่านไป . .
เด็กชายเติบโตขึ้น และก็ชอบเล่นซนตามประสาเด็กผู้ชาย
เขามักจะออกมาวิ่งเล่นซุกซนอยู่รอบๆต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังบ้านเป็นประจำ
นานวันเข้า . .
เด็กชายรู้สึกผูกพันกับต้นไม้ต้นนี้มาก เพราะว่าต้นไม้ที่ให้ร่มเงาร่มรื่น อากาศที่ชื่นเย็น
ต้นไม้ก็ไม่เคยคิดท้อถอยในการปกป้องให้ร่มเงา
มันยังคงให้ความร่มเย็น รวมทั้งยอมเป็นที่ปีนป่ายแก่เด็กชายเสมอมา
และทุกครั้งที่มีปัญหาเกิดขึ้น เด็กชายน้อยคนนี้ก็มักจะมายังต้นไม้นี้เสมอ
จวบจนกระทั่ง . .
เด็กชายน้อยคนนี้ โตเป็นหนุ่ม ร่างกายแข็งแรง และพร้อมที่จะมีคู่ชีวิต
เช่นเคย เขานอนเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเดิม แล้วเขาก็เอ่ยพึมพำกับต้นได้ว่า :
"ข้าต้องการจะสู่ขอสาวสวยคนนึงมาแต่งงานด้วย เพียงแต่ต้องการเงินซักก้อนหนึ่งเป็นค่าสินสอด"
เมื่อต้นไม้ได้ยินดังนั้น ก็อนุญาตเด็กน้อยว่า :
"เจ้าก็เอาผลไม้ จากต้นของข้านี้ไปขาย แล้วเจ้าก็จะมีเงิน เพื่อนำไปขอสาวตามที่เจ้าต้องการ"
เด็กชายรู้สึกดีใจมาก ลงมือเก็บผลไม้ที่มีอยู่เต็มต้น นำไปขาย ได้เงินมามากมาย
และในที่สุด เขาก็ได้แต่งงานอย่างสุขสมหวังในบ้านหลังเล็กๆ
เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเสียจนลืมคิดถึงต้นไม้ และไม่เคยกลับไปนอนเล่นต้นไม้อีกเลย
ต่อมา . .
เด็กชายน้อยได้ให้กำเนิดทายาทเพิ่มขึ้นมา บ้านหลังเล็กที่เคยอยู่ก็ต้องต่อเติมให้ใหญ่ขึ้น
เขาระลึกถึงต้นไม้ได้อีกครั้ง และก็อีกครั้ง ที่ต้นไม้ต้องใจอ่อน :
"ข้าอนุญาตให้เจ้าตัดรอนกิ่งก้านสาขาของข้า เอาไปสร้างบ้านหลังใหญ่ให้กับครอบครัวของของเจ้าได้"
ในที่สุดเขาก็มีบ้านหลังใหญ่ และก็ใช้ชีวิตเพลิดเพลินในบ้านหลังนั้น โดยทิ้งให้ต้นไม้ใหญ่อยู่เพียงลำพัง
เวลาผ่านไปนานมาก . .
จนทายาทของเด็กชายน้อยเติบโต ต่างคนต่างพากันแยกไปมีครอบครัวของตัวเองไปจนหมดสิ้น
ความรู้สึกเหงาจับใจเกิดขึ้นกับเด็กชายน้อยที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ
เขาเคยฝันไว้ว่าเมื่อถึงเวลานี้ เขาจะวางมือจากทุกอย่าง และออกไปหาความสนุกสนานให้ชีวิตบั้นปลาย
ตอนนี้ เขาต้องการเรือซักลำ เพื่อออกเดินทางท่องเที่ยว
เขากลับไปหาต้นไม้ และต้นไม้ก็เข้าใจถึงความปรารถนาของเด็กชายน้อย จึงเอ่ยอนุญาต
เด็กชายน้อยดีใจ รีบตัดเอาลำต้นของต้นไม้ ไปสร้างเป็นเรือ
เพื่อนำไปแสวงหาความสุข หาประสบการณ์ให้กับชีวิต
เด็กชายน้อยก็ล่องเรือท่องเที่ยวไป จนเพลินและลืมเลือนต้นไม้อีกตามเคย
ปล่อยให้ต้นไม้ต่อสู้กับลมแรง ฝน และธรรมชาติที่แสนโหดร้าย อย่างโดดเดี่ยวเงียบเหงาเดียวดาย
สุดท้าย . .
เรือของเด็กชายน้อยที่ใช้มานาน ก็ถึงเวลาต้องแตกสลายลง
จึงระลึกได้ และกลับไปหาต้นไม้อีกตามเคย
แต่คราวนี้สภาพของต้นไม้ทรุดโทรม น่าเวทนายิ่งนัก
เด็กชายน้อยมองต้นไม้อย่างรู้สึกสำนึกผิด
ตอนนี้สภาพของเด็กชายน้อยเองก็ไม่ต่างจากต้นไม้
ผมของเขาเริ่มมีสีขาว ฟันก็เริ่มหลุดร่วงไปทีละซี่ หู ตา ก็เริ่มจะฝ้าฟาง และกำลังป่วยเป็นโรค !
เขาอยากจะนอนเล่นเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ไม่มีโอกาสนั้นสำหรับเขาอีกแล้ว
เพราะต้นไม้ไม่มีร่มเงา ลำต้นก็ถูกตัด เหลือเพียงตอ และราก
น้ำตาหยาดสุดท้ายจากต้นไม้หลั่งไหลออกมา เสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้น กับเด็กชายน้อยว่า :
"เราไม่มีอะไรจะให้เจ้าอีกแล้ว มีแต่รากที่กำลังจะเน่า ผุพังลง ไปในไม่ช้านี้
เจ้าจงรีบเอารากของข้าไปต้มเป็นยาสมุนไพร แล้วดื่มรักษาอาการเจ็บป่วยของเจ้าเถิด"
สิ้นเสียงนั้น เด็กชายก็สะอื้นไห้ทันที
เขาเพิ่งสำนึกและเล็งเห็นว่า ใครที่อยู่เคียงคู่เขามาตลอด ในยามที่มีปัญหา
เขาเริ่มรู้สึกผิด และรู้สึกเสียดายเวลา ที่ผ่านไป ซึ่งไม่อาจจะหวนกลับคืนมาได้
เขาพยายามนำรากของต้นไม้นั้น มาเพาะปลูกในพื้นดินอุดมสมบูรณ์ หวังจะคืนชีพให้มัน
แต่ในที่สุดแล้ว ต้นไม้ก็ตายจากไปด้วย ความอับเฉา
วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
น่าสงสารต้นไม้จัง สงสารเด็กผู้ชายนั้นด้วย แต่เขาอยากทำตัวเขาเองนะ ช่วยไม่ได้หรอกนะ
ตอบลบ