สวัสดีค่ะ
หลังจากห่างหายจากการเขียนบล็อกที่นี่ไปนานเลย
แต่วันนี้ได้ไปเรียนรู้บทเรียนใหม่จากการเข้าทรง
และคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้เอามาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ ที่นี่ค่ะ
ตามประเพณีของคนไทย
เมื่อมีผู้ตายครบ 100 วัน เราก็จะมีการทำบุญใช่มั้ยคะ
ของทางเหนือก็เช่นกัน
ก่อนที่จะทำบุญร้อยวัน
วันนี้เราได้ไปเข้าทรงเพื่อดูว่าคุณยายต้องการอะไรบ้างจะได้ทำไปให้ค่ะ
เป็นครั้งแรกที่บีมได้ไปที่นี่...
บ้านบีมอยู่ อ.พาน จ.เชียงราย
ตำบลที่อยู่ก็ไกลจากที่เข้าทรงพอสมควร
ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีไปถึงที่นั่นโดยรถยนต์ค่ะ
ถึงเป็นรายแรกเลย...
ไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ
ร่างทรงเป็นเจ้าของบ้านผู้หญิงที่ออกมาต้อนรับเรานั่นล่ะค่ะ เค้าเป็นญาติของญาติกันอีกที
เค้าจะปลูกเรือนเข้าทรงไว้ข้าง ๆ บ้านค่ะ
เรื่องรายละเอียดคงข้ามไปนะคะ บีมขอกล่าวถึงเฉพาะสิ่งได้ที่ได้เรียนรู้จากตรงนี้ดีกว่านะคะ
อย่างแรกก็คือ สิ่งที่เห็นและสัมผัสวันนี้ เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่า ภพภูมิอื่นนั้นมีจริง จิตวิญญาณนั้นมีจริง
บางที จิตที่ออกจากร่างอาจจะเป็นขันธ์ 4 ที่ขาดร่างกายอันเป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ไปเท่านั้นเอง
มีความจำ มีความคิด มีจิตวิญญาณ มีความรู้สึก (รึเปล่า?)
ซึ่งการที่ร่างทรงแสดงออกมาได้เหมือนกับบุคคลผู้นั้นในยามมีชีวิตอยู่นั้น
แสดงถึง การปรุงแต่งจิต ความคิด การเรียนรู้ของเค้าในภพภูมินั้น ๆ
คนเราเมื่อจากภพมนุษย์ไปแล้ว
เมื่อไปอยู่ภพอื่น ก็สามารถเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ขอยกตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ นะคะ
แต่ก่อนคุณยายของบีม ชอบเล่นหวยมาก ๆ
แต่เมื่อเช้า มีคนขอหวย ยายกลับบอกว่า
"ให้ไม่ได้ มันผิดศีล"
บีมฟังแล้วประทับใจมาก...
แสดงว่าจิตตอนเสียนั้น ท่านได้ไปจุติอยู่ภพภูมิที่ดี
คงจะได้ไปเจออะไรดี ๆ เป็นแน่แท้
นอกจากนี้ เราถามท่านว่า ท่านห่วงหรือต้องการอะไรมั้ย
ท่านบอกว่าอะไรรู้มั้ยคะ
ต้องการอาหารเจ
ต้องการชุดขาวใหม่ที่ใส่ไปทำบุญที่วัด
และต้องการขรัวเงิน ขรัวทอง (บีมไม่รู้จักค่ะอันนี้) เพื่อไปรับทานที่เราเคยถวายไปให้
แต่ก่อนนี้ ท่านจะชอบเงินมาก ๆ
ชอบเอาไปเก็บไว้..
แต่เมื่อเช้า...
ท่านบอกว่า เงินไม่ต้องการ ขออาหารเจ ชุดขาวก็พอ
เจ็บคอ เจ็บขา
แต่ไม่เอายารักษาโรค เพราะกินก็ไม่หาย
ขออาหารเจ กับ ชุดขาว
อ้อ..ขอรถจักรยานด้วยนะคะ
แต่ท่านก็ยังมีห่วงของบ้าง
และเมื่อเราให้เค้าชี้ตัวเองในรูปถ่าย ก็ชี้ได้ถูกต้องเลย
เมื่อให้เลือกเสื้อผ้า ท่านก็เลือกได้ถูกต้อง (ทั้งที่ร่างทรงไม่เคยเห็นยาย)
ท่านจะเอาเสื้อผ้าที่เราใส่ของหลายคนไว้ในกองเดียวกันค่ะ
ท่านจะดม ๆ และบอกได้ถูกต้องเลยว่าอันไหนของท่าน
คือ ทุกอย่างเป๊ะ ๆ
ตอนท่านไม่สบาย และบีมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
บีมก็จะถามตลอดว่า ยายจะใส่ตัวไหน เลือกเลย
ท่านจะมองไปราวและชี้เอาค่ะ
เลือกเสื้อสูทสีขาวทุกครั้ง
และวันนี้ก็เช่นกัน
ท่านเห็นเสื้อสีขาวตัวนึง ก็รีบหยิบออกมาดม ๆ ดู
ก็บอกว่านี่ไม่ใช่นี่ ไม่ได้เอาเสื้อขาวมาให้เค้าเหรอ
แต่สุดท้ายก็เจอค่ะ ท่านดีใจมาก ก็เอาไปใส่เลย บอกว่าหนาว
อากัปกิริยาทุกอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
เพราะบีมได้มีโอกาสดูแลท่านตั้งแต่ท่านยังไม่นอนบนเตียง
เห็นมาตลอด...และไม่รู้สึกเลยว่านี่คือร่างทรง
นี่่คือจิตของยายของบีมจริง ๆ
สิ่งที่บีมได้เรียนรู้โดยสรุปก็คือ
เงินทองไม่มีค่ามีราคาเลยในโลกอื่นที่ไม่ใช่โลกมนุษย์
การกำหนดจิตที่ลมหายใจสุดท้ายหรือคุณภาพของจิตที่ลมหายใจสุดท้ายเป็นสิ่งกำหนดภพภูมิใหม่จริง ๆ
การที่จิตใต้สำนึกหรือจิตของเรายึดติดกับอะไร มันก็จะติดเป็นสันดานของเราทุกชาติไป
ดังนั้น เราควรหัดปล่อยวาง อย่ายึดติดกับอะไร
เพราะไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ๆ
มีแต่การปรุงแต่ง..ทั้งนั้น..
จริง ๆ แล้ว การที่ท่านจำเราได้...
ก็เพราะมี "ความจำ" นั่นเอง
ความจำ และ การปรุงแต่งนี้ หรือแม้แต่เวรกรรมต่าง ๆ ...
ก็คงเป็นตัวตัดสินว่าเราจะไปอยู่จุดไหนในอนาคตจริง ๆ นั่นล่ะค่ะ
วันนี้ได้มั่นใจเพิ่มขึ้น
ว่าโลกหลังความตาย
อย่างน้อย ถ้าเราฝึกตัวเองให้คิดถึงแต่สิ่งที่ดี อยู่ในศีล
เหล่านี้ เป็นเสบียงให้เราได้ไปต่อในที่ดี ๆ ในโลกอื่นจริง ๆ ด้วย
จบเท่านี้ก่อนนะคะ ^^
ขอบคุณค่ะ
อนุโมทนาที่คุณบีมเข้าใจในสิ่งดี ๆ ประสบการณ์นี้คงมีประโยชน์แก่คุณบีมเพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อยอดแก่คนอื่น ๆ อีกมากต่อไป
ตอบลบขอบคุณมากนะคะ ^^ อนุโมทนาเช่นกันนะคะ หากบทความนี้เป็นประโยชน์ต่อคุณค่ะ ^^
ตอบลบ