เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันได้รับริบบิ้นสีฟ้า จากเพื่อนคนหนึ่งส่งมาให้จากประเทศอังกฤษ นอนคิดอยู่หลายวัน...แล้วดิฉันก็คิดได้ว่า อยากส่งริบบิ้นสีฟ้านี้ให้คุณ คุณ ทั้งหลาย ที่กำลังอ่าน web blog จิต-ใจ-ดี อยู่ในขณะนี้ เรื่องมันยาวสักเล็กน้อย อยากให้อ่านให้จบนะคะ...ขอบคุณค่ะ
......สีตะวัน
ริบบิ้นสีฟ้า
มีความรู้สึกดีๆมาให้
ครูคนหนึ่งที่นิวยอร์ค ตกลงใจจะแสดงความชื่นชมนักเรียนไฮสคูลชั้นปีสุดท้ายที่เธอสอน ด้วยการบอกเขาเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าพิเศษต่างจากคนอื่นอย่างไรบ้าง เธอเรียกนักเรียนทุกคนไปหน้าชั้นทีละคนแรกสุดเธอบอกแต่ละคนว่า พวกเขามีคุณค่าเพียงใดทั้งต่อตัวครูและเพื่อนร่วมห้อง จากนั้นเธอก็มอบริบบิ้นสีฟ้าพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทองเป็นของขวัญให้ข้อความบนริบบิ้นมีว่า 'ฉันเป็นคนมีคุณค่า'จากนั้นครูให้นักเรียนทำงานกลุ่มของชั้นขึ้นมาชิ้นหนึ่งด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดูว่าการแสดงความชื่นชมยกย่องผู้อื่นส่งผลอย่างไรต่อคนในชุมชนเธอมอบริบบิ้นแก่นักเรียนคนละสามเส้นให้นักเรียนเผยแพร่การรับรู้และชื่นชมคุณค่าผู้อื่นในวงกว้างออกไปจากนั้นนักเรียนจะต้องติดตามผลและดูว่าใครยกย่องใครบ้างแล้วนำกลับมารายงานในห้องภายในหนึ่งสัปดาห์นักเรียนชายคนหนึ่งเข้าพบผู้บริหารระดับรองที่ทำงานในบริษัทใกล้ๆเพื่อยกย่องที่ชายผู้นี้เคยช่วยเขาวางแผนอาชีพในอนาคตแล้วมอบริบบิ้นติดให้บนเสื้อเชิ้ตจากนั้นก็มอบริบบิ้นอีกสองเส้นที่เหลือพร้อมกับกล่าวว่า...'เรากำลังทำงานกลุ่มของชั้นเรียนเกี่ยวกับเรื่องการแสดงความยกย่องชื่นชมผู้อื่นครับ ผมอยากขอให้คุณช่วยหาใครสักคนที่คุณต้องการยกย่อง'แล้วให้ริบบิ้นเขาส่วนอีกเส้นก็ให้เขาไว้สำหรับมอบให้คนต่อไปเพื่อเผยแพร่การยกย่องชื่นชมนี้ให้กระจายต่อไป แล้วช่วยกลับมาบอกผมด้วยครับว่าผลเป็นยังไงบ้าง'ต่อมาในวันเดียวกันผู้บริหารท่านนี้เข้าพบเจ้านายเขาซึ่งเป็นคนที่ใครๆ ก็รู้กันดีว่าเกรี้ยวกราด อารมณ์ร้ายเขานั่งลงคุยกับเจ้านายบอกเจ้านายว่า 'ลึกๆ เขายกย่องชื่นชมเจ้านายว่าเป็นผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ'ดูเหมือนเจ้านายเขาจะประหลาดใจอย่างยิ่งเขาถามเจ้านายว่า จะยินดีรับริบบิ้นสีฟ้าเป็นของขวัญแสดงความชื่นชมและอนุญาตให้เขาติดริบบิ้นให้ได้หรือไม่
เจ้านายผู้ประหลาดใจตอบว่าได้เขาจึงติดริบบิ้นสีฟ้าเส้นนั้นบนปกเสื้อนอกบริเวณเหนือหัวใจเมื่อเขามอบริบบิ้นเส้นสุดท้ายแก่เจ้านายเขาบอกเจ้านายว่า ช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับผมอยากให้ เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้นเส้นสุดท้ายนี่ด้วยการยกย่องชื่นชมใครสักคนพ่อหนุ่มที่ให้ริบบิ้นผมมาเป็นคนแรก กำลังทำงานกลุ่มของชั้นอยู่เขาอยากให้ช่วยกระจายการยกย่องชื่นชมนี้ให้เผยแพร่>ในวงกว้างออกไป แล้วดูว่าการทำแบบนี้ส่งผลต่อใครๆ ยังไงบ้าง
ค่ำวันนั้นชายผู้เป็นเจ้านายกลับบ้านไปหาลูกชายวัยรุ่นอายุสิบสี่เขาเรียกลูกชายให้นั่งลงแล้วกล่าวว่า วันนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่สุดกับพ่อตอนอยู่ห้องทำงาน ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมพ่อแล้วให้ริบบิ้นเส้นหนึ่งเป็นการยกย่องว่าพ่อเป็นอัจฉริยะเรื่อง ความมีหัวคิดสร้างสรรค์ลองนึกดูเขาคิดว่าพ่อมีหัวคิดสร้างสรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเชียวนะแล้วเขาก็เอาริบบิ้นเส้นนี้ที่เขียนว่าฉันเป็นคนมีคุณค่าติดให้บนปกเสื้อนอกตรงหัวใจนี่แล้วยังให้ริบบิ้นพ่อมาอีกเส้นให้พ่อมองหาใครสักคนที่จะยกย่องชื่นชมต่อระหว่างที่พ่อ ขับรถกลับบ้านก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดีแล้วพ่อก็นึกถึงแก พ่ออยากชื่นชมแกนะ วันๆ พ่อทำงานยุ่งเหยิงมากพอกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจแกสักเท่าไรบางทียังอาละวาดอีก เรื่องแกเรียนได้เกรดไม่ดีเรื่องทำห้องนอนรกแต่ยังไงไม่รู้สิวันนี้พ่อกลับอยากนั่งลงตรงนี้กับแกอยากบอกว่าแกมีค่ากับพ่อมากแค่ไหนนอกจากแม่แกแล้ว ก็มีแกนี่แหละที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพ่อแกเป็นเด็ก ที่ยอดเยี่ยมเลยแหละ แล้วพ่อก็รักแกนะ...
เด็กหนุ่มผู้ตื่นตะลึงเริ่มสะอื้นแล้วก็สะอื้นเขาไม่อาจหยุดร้องไห้ ร่างสั่นเทาไปทั้งตัวเขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวทั้งน้ำตา'พ่อครับ เมื่อตอนเย็นผมอยู่บนห้อง นั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่เพื่ออธิบายว่าทำไมผมถึงฆ่าตัวตาย แล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผมผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายคืนนี้ตอนพ่อหลับผมคิดว่าพ่อไม่เคยแคร์ผมเลยจดหมายอยู่บนห้องครับแต่ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะ'พ่อของเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องพบจดหมายข้อความสะเทือนใจบรรยายถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานจดหมายฉบับนั้นจ่าหน้า ถึงพ่อกับแม่
ชายผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ทำงานอย่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาเลิกเป็นคนขี้โมโหแต่จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ พนักงานใต้บังคับบัญชารู้ว่าพวกเขามีค่าอย่างไรบ้างส่วนชายผู้เป็นนักบริหารระดับรองก็ช่วยให้คำแนะนำเด็กหนุ่มอื่นๆต่อมาอีกหลายคนเรื่องการวางแผนอาชีพในอนาคตแล้วก็ไม่เคยลืมบอกเด็กเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าต่อชีวิตเขาอย่างไรบ้างหนึ่งในนั้นก็คือเด็กหนุ่มลูกชายเจ้านายเขาส่วนเด็กหนุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นก็ได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่าเรื่องหนึ่งนั่นคือเราต่างเป็นคนที่มีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น
คุณไม่จำเป็นต้องส่งเมล์ฉบับนี้ต่อให้ใครแม้แต่คนเดียว..อย่าว่าแต่สองคนหรือสองร้อยคนเลยคุณอาจจะลบเมล์ฉบับนี้ทิ้ง แล้วไปเปิดดูเมล์ฉบับต่อไป ! !
แต่ถ้าคุณมีใครสักคนที่มีความหมายกับคุณมากฉันขอสนับสนุนให้คุณส่งข้อความนี้ไปให้เขาหรือเธอผู้นั้น เพื่อให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกของคุณ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า การให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆมีคุณค่าแค่ไหนกับคนสักคนส่งเรื่องนี้ไปยังคนทุกคนที่คุณเห็นว่ามีความหมายต่อคุณมีความสำคัญต่อคุณหรืออาจส่งไปให้คนหนึ่ง..สอง..หรือสามคนที่มีความหมายต่อคุณมากที่สุดหรือคุณอาจจะแค่ยิ้มที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญไม่งั้นคุณก็คงไม่ได้รับเมล์ฉบับนี้แต่แรก.........
จำไว้นะ ฉันให้ริบบิ้นสีฟ้าแก่คุณแล้ว ……….
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ฉันเคยได้รับริบบิ้นสีฟ้าไปแล้วเส้นหนึ่ง
ตอบลบแล้วก็ได้ส่งริบบิ้นสีฟ้าให้คนที่แนรักเรียบร้อย
และวันนี้ขอรับอีกเส้นค่ะ ^^"
ปล. กำลังใจดีดี..มีค่ากว่าคำสอนจริงๆค่ะ :D