เคยทราบไหมว่า ร่างกายเราสามารถรับน้ำหนักได้ 3 เท่าของน้ำหนักตัวเวลาเดินขึ้นลงบันได 6 เท่าของน้ำหนักตัวเวลาวิ่ง และ 12 เท่าของน้ำหนักตัวเวลานั่งยอง ๆ และนี่คือสิ่งที่สารคดีชุด HUMAN BODY: PUSHING THE LIMITS จะเปิดเผยข้อเท็จจริงให้รู้ตลอดเดือนเมษายนนี้
ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาให้มีความเข้มแข็ง พละกำลัง และความทรหดอดทน กระดูกของเราแกร่งราวกับคอนกรีต แต่ก็ยืดหยุ่นพอที่จะไม่แตกหักง่าย ๆ ไม่ใช่เท่านั้นมันยังเบาพอที่จะทำให้เราสามารถออกตัวได้เร็วยิ่งกว่าม้าแข่ง
ซี่โครงของเราจะขยายออกอย่างชาญฉลาดเวลาถูกกด เพื่อป้องกันอวัยวะสำคัญที่อยู่ภายใน การขยายตัวแบบนี้เกิดขึ้นราว ๆ ปีละ 5 ล้านครั้ง นอกจากนี้มันยังถูกสร้างมาให้แข็งแกร่ง จนสามารถรับน้ำหนักที่กดทับลงมาได้ถึงครึ่งตันด้วย
ไม่เพียงเท่านั้นช่องว่างเล็ก ๆ ของ กระดูกอ่อนซึ่งเต็มไปด้วยน้ำในหัวเข่าของเราแข็งแรงกว่าเชือกไนลอนสองเท่า กระดูกอ่อนผิวข้อนั้นแข็งแกร่งกว่าไทเทเนียม และสามารถรับน้ำหนักได้ 7 ตัน กระดูกส่วนเดียวที่เติบโตเต็มที่ตั้งแต่เกิดอยู่ภายในหู ขณะที่ใบหน้ามนุษย์ประกอบด้วยกระดูก 14 ชิ้น และกว่า 80% ของสิ่งที่เรารับรู้เกี่ยวกับโลกนี้ ผ่านเข้ามาทางตา
มนุษย์เกิดมาโดยมีกระดูก 300 ชิ้นในร่างกาย แต่เมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เราจะมีกระดูกเพียง 206 ชิ้น เพราะกระดูกหลายชิ้นเชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว โดยมีเคลือบฟันเป็นสารที่แข็งที่สุดในร่างกาย ส่วนกระดูกถึงแม้ด้านนอกจะแข็ง แต่โดยรวมแล้วมันเบาและอ่อนนุ่มข้างใน มันประกอบด้วยน้ำราว 75%
แต่เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกต้นขาของคุณแข็งแกร่งกว่าคอนกรีต โดยมีกระดูกฟีเมอร์หรือกระดูกต้นขาเป็นกระดูกที่แข็งที่สุดในร่างกาย
จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อเราทุกคนสามารถแสดงความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งอย่างที่ไม่เคยนึกฝันว่าจะทำได้ ยามที่ต้องเจอกับเหตุการณ์วิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับแม็ท ซูเทอร์ ทั้งที่ถูกพายุทอร์นาโดดูดขึ้นไปก่อนจะพ่นเขาลงมาบนพื้นห่างออกไป 400 เมตร แต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
ขณะที่นักปีนหน้าผาคนหนึ่งถูกหินหนักครึ่งตันกดทับ และพบว่าตนเองแข็งแรงพอที่จะยกหินก้อนนั้นออกทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้ หรือชายคนหนึ่งเผย ให้เห็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่จากความทรหดอันน่าทึ่งของบรรพบุรุษป่าเถื่อนของเรา ด้วยการว่ายน้ำเป็นเวลา 14 ชั่วโมง จากในอังกฤษและไปจบที่ฝรั่งเศส
แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่เราคิด แต่ขณะเดียวกันมันมีเรื่องของความรู้สึกเข้ามา เกี่ยวข้องด้วย ลึกลงไปใต้ผิวหนังไม่ถึงหนึ่งส่วนยี่สิบนิ้ว มีเสาอากาศที่ทำให้เราสามารถสัมผัสโลกรอบตัว ชั้นผิวที่สำคัญนี้คือประตูสู่ทางด่วนข้อมูลข่าวสารขนานแท้และดั้งเดิม นั่นคือระบบประสาท
เส้นประสาทนับล้าน ๆ จะลำเลียงความรู้สึกทั่วร่างกายและนำไปสู่สมองด้วยความเร็วกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นี่คือเรื่องราวของเครือข่ายการสื่อสารที่สำคัญยิ่งของร่างกายมนุษย์ ระบบประสาทของเราสามารถรักษาชีวิตผู้คนไว้ได้เมื่อร่างกายถูกกดดันถึงขีดสุด
อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองพ่อลูก เมื่อทั้งคู่ติดอยู่ในเขตเอาต์แบ๊กที่ความร้อนแผดเผาของออสเตรเลียโดยไม่มีน้ำ การนับถอยหลังสู่ความตายของทั้งสองก็เริ่มขึ้น จนกระทั่งระบบประสาทของพวกเขาจุดชนวนระบบเอาชีวิตรอดที่ซ่อนอยู่ออกมาใช้งาน ขณะที่พระวัดเส้าหลินสามารถทนการทุบตีร่างกายแรง ๆ ได้โดยไม่กะพริบตา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย มนุษย์นั้น มีสมองเป็นส่วนสำคัญที่คอยสั่งการให้ทุกอย่างทำตามหน้าที่ที่ควรจะเป็น มันคืออวัยวะอันทรงพลังที่สุดในโลกธรรมชาติ ในวันหนึ่ง ๆ หน่วยประมวลผลกลางผลิตแรงกระตุ้นไฟฟ้ามากเท่ากับโทรศัพท์ทั้งโลกรวมกัน
สมองของเราสามารถเร่งความเร็วทำให้เวลาดูเหมือนช้าลงเพื่อช่วยให้รอดพ้นอันตราย เมื่อเราถูกกดดันจนถึงขีดสุด สมองจะเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมโดยไม่บอกให้เรารู้ อย่างการที่มันทำให้นักผจญเพลิงทำสิ่งที่ถูกต้องเมื่อติดอยู่ในความร้อนแผดเผาของไฟป่า
หรือควบคุมร่างกายเราเมื่อมีแรงกระ ตุ้นดึกดำบรรพ์ที่เรียกร้องให้กินอาหารเกิดขึ้นในตัวเรา และปรับระบบของเราใหม่เมื่ออาหารหมด ทำให้คนที่คุ้นเคยกับอาหารวันละสามมื้อและสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ 35 วัน โดยไม่ได้กินอาหารเลย
ที่น่าประหลาดใจก็คือ เวลาที่สมองของเรามีกิจกรรมมากที่สุดก็คือเวลาเรานอนหลับ ความฝันคือผลลัพธ์ทางจินตนาการของการที่ความคิดแยกแยะความทรงจำและภาพต่าง ๆ จากช่วงที่เราตื่น เราค้นพบว่าการนอนหลับนั้นสำคัญต่อสมองมากกว่าร่างกาย
ติดตามระบบการทำงานส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ได้ใน HUMAN BODY: PUSHING THE LIMITS ออกอากาศทุกวัน พุธ เวลา 20.00 น. เริ่ม 9 เมษายน ทางทรู วิชั่นส์ 47.
เดลินิวส์
MAIL FROM DEV - GDACS daily newsletter for 06/08/2019
5 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น