วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ลุงเหลือ​ยอดนักประดิษฐ์

ถ้า​พูด​ถึง​งานอดิ​เรก​ใน​ช่วงบั้นปลายชีวิตของคนชรา​ทั่ว​ไป​ส่วน​ใหญ่​ ​คง​จะ​หนี​ไม่​พ้นการปลูกต้นไม้​ ​นั่งเล่นหมากรุก​ ​อยู่​กับ​บ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน​ ​หรือ​เข้า​วัดฟังเทศน์ฟังธรรม​ ​หากแต่มีชายชราคนหนึ่งที่วันๆ​ ​หนึ่ง​ ​เกือบตลอด​ 24 ​ชั่วโมง​ ​ใช้​เวลาหมดไป​กับ​การนั่งคิดสร้างสรรค์​ ​ประดิษฐ์คิด​ค้น​สิ่งต่างๆ​ ​ตามหัวคิดแบบชาวบ้านๆ

นักประดิษฐ์ชาวบ้าน​ ​นักวิทยาศาสตร์​ ​ป​.4 ​หรือ​ใคร​จะ​ให้​นิยามอะ​ไรก็ตาม​ ​แต่คน​ใน​แถบ​ ​อ​.​แม่​แตง​ ​จ​.​เชียง​ใหม่​ ​จะ​คุ้นตา​กัน​ดี​กับ​ชายชราร่างสูง​ใหญ่​วัยเกือบ​ 80 ​ปี​ ​ที่ผมเผ้ามี​แต่​จะ​ลดน้อยถอยลง​ ​ฟันฟางก็หักหมดปาก​ ​วันๆ​ ​ง่วน​อยู่​กับ​กองเศษวัสดุ​เหลือ​ใช้​มากมายที่คนนำ​ไปทิ้งขว้าง​ ​เศษขยะต่างๆ​ ​เหล่านี้​ ​ชายชราคนเดียว​กัน​กลับมองว่าของทุกอย่างล้วน​ ​มีประ​โยชน์ทุกชิ้น​ไม่​ควร​จะ​ทิ้งอย่างไร้ค่า​ ​ฉะ​นั้น​ ​บ้านไม้สองชั้น​ทั้ง​หลัง​จึง​เต็มไป​ด้วย​เศษวัสดุสิ่งของมากมายหลากหลายชนิดที่​แออัดยัดเยียด​อยู่​ใน​ทุกพื้นที่ของบริ​เวณบ้าน

ชายชราที่กำ​ลังเอ่ย​ถึง​คนนี้​ ​มีชื่อว่า​ "ลุงเหลือ​ ​เปรมปราคิน" ​อดีตลูกจ้างประจำ​ของกรมชลประทาน​ ​ที่​เริ่มต้นทำ​งานตั้งแต่อายุ​ 22 ​ปี​ ​จนกระทั่ง​ถึง​วัย​ ​ปลดเกษียณ

"ตอนเด็กๆ​ ​ผมชอบแกะนู่นแกะนี่​ ​ชอบสงสัยว่า​เครื่องยนต์กลไกมัน​เป็น​อย่างไร​ ​และ​ผมก็​เรียนรู้ทุกอย่าง​ด้วย​ตัวเองตลอด​ ​ตั้งแต่​เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้าทุกชนิด​ ​คอมพิวเตอร์​ ​เครื่องยนต์กลไก​ ​การออกแบบโครง​ ​สร้างต่างๆ​ ​รี​โมตคอนโทรล​ ​เครื่องไฮดรอลิกส์​ ​ช่างเชื่อม​ ​ช่างไฟฟ้า​ ​ช่างก่อสร้าง​ ​และ​อื่นๆ​ ​อีกทุกชนิด​ ​ทุกวันนี้ผมก็​ยัง​ศึกษา​ค้น​คว้า​ใน​เรื่องที่ผม​ยัง​ไม่​รู้อีกมากมาย​ ​ผมว่าการเรียนรู้​ไม่​มีที่สิ้นสุด​ ​ตราบ​ใด​ที่​เรา​ยัง​มีลมหายใจ​อยู่​"



สิ่งประดิษฐ์มากมายหลายชนิด​ ​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ ​หมวก​กัน​น็อคที่​สามารถ​ฟังเพลง​ได้​ ​เครื่องตัดหญ้า​แบบ​ใช้​รี​โมตคอนโทรล​ ​เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์​ ​เครื่องบินบังคับวิทยุ​ ​แม้กระทั่งเครื่องบิน​เล็ก​ที่​ใช้​ขับ​ได้​จริง​ ​สิ่งประดิษฐ์​เหล่านี้ล้วนเกิด​จาก​เศษวัสดุ​เหลือ​ใช้​ทั้ง​นั้น

แต่​ใน​จำ​นวนสิ่งประดิษฐ์มากมายหลากหลายที่ผ่านมันสมอง​ ​ผ่านหัวคิดสร้างสรรค์​ ​จินตนาการของนักประดิษฐ์ชาวบ้านๆ​ ​แบบลุงเหลือ​ ​ก็คง​ไม่​มีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นไหนน่าทึ่ง​เท่า​กับ​สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้​ ​นั่นก็คือ​ "จานดาวเทียมกระทะ​เหล็ก" ​ของลุงเหลือนั่นเอง

"ช่วงที่มีจานดาวเทียม​เข้า​มา​เมืองไทย​ใหม่ๆ​ ​ที่สร้างขึ้นมาที่สถานีจานดาวเทียมที่ศรีราชา​ ​กว้าง​ 29 ​เมตร​ ​หนัก​ 200 ​กว่าตัน​ ​ลงทุนไป​ทั้ง​หมด​ 141 ​ล้านบาท​ ​ผมก็สนใจ​ ​และ​พยายามศึกษา​ค้น​คว้ามาตลอด​ ​โดย​หา​ความ​รู้​จาก​หนังสือ​ทั่ว​ไป​ทั้ง​อเมริกา​และ​อังกฤษ​ ​ผมอ่านภาษาอังกฤษ​ไม่​ออกหรอก​ ​แต่​เราก็​ใช้​ตัว​ช่วย​ให้​คอมพิวเตอร์ทำ​การแปล​ให้​ ​ผมก็ศึกษา​ค้น​คว้ามา​เรื่อยๆ​ ​จนจานดาวเทียม​เป็น​ที่​แพร่หลายมากขึ้น​ ​ราคาก็​เริ่มลดลงประมาณ​ 38,000 ​บาท​ ​แต่​เงินเดือนของผม​ไม่​กี่บาท​ ​ผม​จึง​รวบรวมเงินเก็บ​เท่า​ที่มี​ไปขอซื้อจานดาวเทียม​ ​แต่ขอซื้อเฉพาะจานอย่างเดียว​เขา​ไม่​ให้​ ​ผมก็​เลยคิด​ค้น​ทำ​เองเลย​ ​โดย​ทดลองเอาสิ่งของ​ใกล้​ตัว​ ​เช่น​ ​เหล็กอะลูมิ​เนียมตู้​กับ​ข้าว​ ​กระทะที่​เรา​ใช้​ทำ​กับ​ข้าว​ ​โดย​คิดว่าอะ​ไรที่มันสะท้อนคลื่น​ได้​นั้น​ก็​สามารถ​ทำ​ได้​หมด"



จานดาวเทียมกระทะ​เหล็กของลุงเหลือ​ ​จึง​ถูกนำ​ไปติดตั้งตามโรงเรียนต่างๆ​ ​ทั้ง​ใกล้​และ​ไกล​ ​เพื่อ​ให้​นักเรียน​ได้​เรียนรู้ระบบการศึกษาทาง​ไกล​ผ่านดาวเทียม​ ​จาก​จานกระทะ​เหล็กของลุงเหลือ​ ​ด้วย​ความ​คิดที่ว่า​ ​ความ​รู้​ไม่​ควรถูกปิดกั้น​ ​แต่ควร​จะ​กระจายไปทุกที่ทุกตำ​บล

เพราะ​เป็น​คนที่​เรียนรู้ทุกอย่าง​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ใน​บั้นปลายชีวิตของลุงเหลือ​จึง​คิดว่าทำ​อย่างไร​จึง​จะ​ให้​ได้​งานมากที่สุด​เท่า​ที่​จะ​มาก​ได้​ ​และ​เวลาที่​เหลือ​อยู่​ก็มี​แต่ถดถอยลงไปทุกขณะ​ ​ลุงเหลือ​จึง​ใช้​เวลาอย่างคุ้มค่า​ ​และ​เป็น​ประ​โยชน์มากที่สุด

วันเวลา​ใน​ช่วงกลางวัน​ใน​แต่ละวัน​ ​ถ้า​ไม่​หมดไป​กับ​การประดิษฐ์คิด​ค้น​สิ่งต่างๆ​ ​ก็​จะ​มีคนที่สนใจเรื่องจานดาวเทียม​ทั้ง​ใกล้​และ​ไกล​เดินทางมาขอคำ​แนะนำ​บ้าง​ ​หรือ​บางวันลุงเหลือก็​จะ​เดินทางไปตามโรงเรียนต่างๆ​ ​ที่​เชิญมา​ ​ให้​ไปสอน​ให้​กับ​ครู​ ​อาจารย์​ ​นักเรียน​ ​ไม่​เว้นแม้​แต่สอนนักการภารโรงเกี่ยว​กับ​การบำ​รุงรักษา​ ​ส่วน​ใน​ช่วงกลางคืนลุงเหลือก็​ไม่​ได้​ทิ้งเวลา​ให้​เปล่าประ​โยชน์​ ​ศึกษา​ค้น​คว้า​ใน​อินเตอร์​เน็ต​ ​บางทีก็​เขียนโปรแกรมออโต้​แวร์​ ​เพื่อนำ​มาสร้างสื่อการเรียนการสอนบันทึกลงแผ่นซีดี​แจกจ่ายไปตามโรงเรียนต่างๆ​ ​อีก​ด้วย

"ผม​ไม่​คิดที่​จะ​ทำ​ขาย​ ​หรือ​จดลิขสิทธิ์​ ​ผมอยาก​ให้​ความ​รู้กระจายไป​ใน​ทุกพื้นที่​ ​ดัง​นั้น​ ​ผมถือว่ามัน​เป็น​กุศลที่ผม​ได้​มอบ​ให้​กับ​คน​อื่น​ ​อันดับแรกคือ​ ​ร่างกายผม​ไม่​ป่วย​ยัง​แข็งแรงดี​ ​สองผม​ความ​จำ​ยัง​ดี​ยัง​ทำ​ประ​โยชน์​ได้​ ​และ​สามคือ​ ​ผมพอ​อยู่​พอกิน​ไม่​ได้​อยากร่ำ​รวยอะ​ไร​ ​ฉะ​นั้น​ ​เรื่องเงินเรื่อง​เล็ก​ ​ถ้า​ตัวเรา​อยู่​สุขสบาย​แล้ว​ล่ะก็​ ​วิธีคิดเหล่านี้ผม​ได้​มา​จาก​พระราชดำ​รัสของ​ใน​หลวง​ ​คือคิดอะ​ไร​ให้​มันง่ายๆ​ ​เข้า​ไว้​อย่าสลับซับซ้อน​ ​คน​อื่น​เขา​จะ​ได้​ทำ​ตาม​ได้​"

เพราะ​เหตุ​ใด​ชายชราวัย​ใกล้​ 80 ​ปี​ ​และ​เป็น​นักประดิษฐ์ฝีมือชาวบ้าน​ ​จึง​สามารถ​เรียนรู้​ ​สร้างสรรค์​ ​คิด​ค้น​สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ​ ​ไว้​อย่างมากมาย​ ​ถ้า​หาก​ไม่​มี​ความ​เชื่อเกี่ยว​กับ​เรื่องของการเรียนรู้ตลอดเวลา​ ​ที่สำ​คัญก็คือว่า​เมื่อเรียนรู้​แล้ว​ ​ลุงเหลือเอา​ความ​รู้ของตนเองไปทำ​คุณประ​โยชน์​ให้​กับ​สังคมต่อไปอีก​ ​ใน​ยุคสมัยที่คน​ส่วน​ใหญ่​มัก​จะ​เป็น​ผู้​รับมากกว่าการ​เป็น​ผู้​ให้​ ​ลุงเหลืออาจ​จะ​มีคำ​ตอบ​ให้​กับ​การนำ​ความ​รู้​เพื่อไปสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ​ ​ให้​กับ​ผู้​อื่น​อีกมากมาย​ ​เพราะ​การ​เป็น​ผู้​ให้​ย่อมมี​ความ​หมายต่อการ​เป็น​ผู้​รับอย่างแน่นอน

ที่มา มติชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น