การดับทุกข์ไม่ได้ยากอะไร
เพียงแค่เห็นชีวิตของเราเหมือนดูละครหลังข่าว
เห็นแล้วก็ผ่านไป
ไม่ต้องคิดว่าเราเป็นพระเอก นางเอก
ไม่ต้องคิดว่าเราเป็นผู้ร้าย
ดูมันไปเรื่อยๆ
สนุกก็รู้ว่าสนุก
เศร้าก็รู้ว่าเศร้า
แต่ไม่ต้องเอามันมาเป็นความทุกข์ของเรา
บทสรุปที่ได้จากผู้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่มีข้อความบนปกหลังว่า...
"... พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนเรื่องอะไรอื่น นอกจากทุกข์ และความดับทุกข์ ปฏิบัติให้รู้ัจักทุกข์ แล้วดับทุกข์ได้ก็พอแล้ว เรื่องโลก เรื่องชาติหน้า ชาติหลัง นรก สวรรค์ จะมีจริงหรือไม่จริง ไม่ต้องไปรู้ก็ได้ ถึงจะรู้ ก็ใช่ว่าดับทุกข์ได้
.... ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการรู้ัจักทุกข์ และเหตุแห่งทุกข์ เข้าถึงความดับทุกข์ ถ้าเจริญข้อปฏิบัติได้เต็มที่ ก็หมดปัญหา หมดความสงสัย ถึงไม่มีฤทธิ์ ไม่มีเดช ไม่มีตาทิพย์ หูทิพย์ ไม่ได้ไปรู้วาระจิตของใคร ไม่ได้มีวิชาอาคมอะไร ก็ไม่สำคัญ ขอให้จิตสะอาด จิตบริสุทธิ์ ขอให้ดับทุกข์ให้ตัวเองได้เท่านั้น เพราะว่าไม่มีอะไรเหนือกว่าการดับทุกข์ ปัญหาทั้งหลายแหล่ ก็รวมอยู่ในเรื่องของความทุกข์ ดังนั้นสิ่งที่ควรได้ควรถึงก็คือความดับทุกข์...."
เขมรังสี ภิกขุ
คัดลอกจากท้ายปกหนังสือ ธรรมะแห่งความดับทุกข์ ดูความปรุงแต่ง โดย เขมรังสี ภิกขุ
หนังสือเล่มเล็ก ๆ อีกหนึ่งเล่มที่ผู้สนใจศาสนาพุทธควรอ่าน
วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2550
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เป็นหนังสือที่น่าอ่านดีนะ..
ตอบลบต้องลองไปหาอ่านซะแล้ว..จะได้รู้ว่า "ทุกข์" คืออะไร?
แล้วจะนำได้ไปบอกต่อกับ "คนอื่น"
555
ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ตอบลบหากว่า..ได้อาศัยความงดงามแห่งสัจจะธรรม
ที่เรียบง่ายและลึกซึ้งจากหนังสือเล่มเล็กนี้
ทุกข์กายทุกข์ใจคงจะบรรเทาได้บ้างล่ะ ^^"
นาชอบหลักธรรม หลักปฏิบัติของพุทธศาสนานะ
แต่ว่าให้อ่านจริงๆจังๆก็ได้แค่จับปกมันค่ะ แห่ะๆ
นอกนั้นหลับในไปเลย (แบบว่าซึ้งในรสพระธรรมตั้งแต่ยังไม่ตั้งหน้าอ่านเลย)
์
เต้:
ตอบลบอนุโมทนาครับ
na:
แค่ชอบหลักธรรมหลักปฏบัติก็ดีแล้วครับ