วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สูตรแห่งความสุข...ตำราชีวิตประจำวัน (fw-mail)

สูตรแห่งความสุข...ตำราชีวิตประจำวัน  B y สุทธิชัย หยุ่น
พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้...บอกว่าเป็น สูตรแห่งชีวิตประจำวัน
ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก , ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...

ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ
เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น ตำราแห่งชีวิต ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อหา
และคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา , ใครจะทำก็ได้ , ไม่ทำก็ได้ ,
เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล , ไม่บังคับยัดเยียดกัน , ไม่ต่อว่าต่อขานกัน , แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไร
ให้กับชีวิตของตนเอง , ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุน สมควรที่จะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง

สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้
 ๑.    ดื่มน้ำให้มาก      
   ๒.    กินอาหารเช้าเหมือนราชา , รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น ,
       
ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า , และกลาง ๆ ตอนเที่ยง
         
และตกเย็นแล้ว , ทำตัวเป็นยาจก , ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
   ๓.กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน , พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
   ๔.ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E... นั่นคือ energy หรือพลังงาน , enthusiasm หรือกระตือตือร้น
       และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก
   ๕.   หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
   ๖.    เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง , อย่าเครียดกันนักเลย
   ๗.   อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
   ๘.   นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
     ๙.    นอนวันละ 7 ชั่วโมง
   ๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที , แล้วแต่จะสะกวด , ไม่ต้องเครียดกับมัน , วันไหนไม่ได้เดิน ,
         ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
   ๑๑.ระหว่างเดิน , อย่าลืมยิ้ม
    นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ , หากทำเป็นกิจวัตร ,
 
ชีวิตก็จะแจ่มใส , แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลา
 
ของตนเอาไว้ วันนี้ทำไม่ได้ , พรุ่งนี้ทำก็ได้ แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการ
 
ผัดวันประกันพรุ่ง , ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
   
สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพ

 ๑.   อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณ
       
อย่างไรบ้าง
   ๒.    อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย , ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
   ๓.   อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
   ๔.   อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
   ๕.   อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะ
       
ทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
   ๖.   จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
     ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็น
       
ต้องมีแล้ว
   ๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของ
       
อีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
   ๙.   ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
   ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น , จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
   ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
   ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตร
       
ซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
   ๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
   ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่าง
       
กันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
     
แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ ?
   ๑.       อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย
   ๒.     จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
   ๓.      จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
   ๔.      จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
   ๕.      พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
   ๖.       คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก   หน่อย
   ๗.      งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก
แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณ
       
ในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น , อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
 

และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
     ๑.    ทำสิ่งที่ควรทำ
     ๒.    อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ , ไม่สวย , ไม่น่ารื่นรมย์ , จงทิ้ง
       
ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม ?
     ๓.    เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
     ๔.   ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด , เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
     ๕.   ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน , จงลุกจากเตียง , แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้า
       
คนที่เราร่วมงานด้วย... get up, dress up and show up.
     ๖.    สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
   

 


1 ความคิดเห็น:

  1. ดีจัง..ขอบคุณค่ะ..

    สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง..เพราะโลกนี้ไม่มีที่สุดรึเปล่า..อิ อิ

    ทำทุกวันให้มีความสุข ..
    เอาใจเขามาใส่ใจเรา
    งานไม่ดูแลเราตอนป่วย
    คนอื่นคิดอย่างไรกับเราก็ไม่ใช่เรื่องของเราซักกะหน่อย..
    .....^_^...ชั่ง-มัน-เถิด...อิ อิ
    ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำทุกวันนะคะ.....

    ..........................

    ตอบลบ