วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เรื่องนี้ต้องบอกต่อ...ขออานิสงส์ บังเกิดแก่ผู้อ่าน

ได้รับ Fw mail จากเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานค่ะ ...
เจอกันอีกครั้งเมื่ออบรมการให้คำปรีกษาเพื่อการอดบุหรี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แลกเปลี่ยน e-mail address กันแล้วรุ่งขึ้นก็ได้รับอานิสงส์นี้

จึงขอบอกต่อพี่น้อง ผองเพื่อน ชาวชุมชนจิต-ใจ-ดี ด้วยความคิดถึงค่ะ..^_^...




ขออานิสงส์ บังเกิดแก่ผู้อ่าน และผู้ส่งต่อ

มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ


1. นั่งสมาธิ อย่างน้อยวันละ 15 นาที (หรือเดินจงกรมก็ได้)

อานิสงส์ --- เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน

ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล

2. สวดมนต์ ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน

อานิสงส์ --- เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า

เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง
จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว

แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา , พระคาถาชินบัญชร , พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง

3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด , ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์

อานิสงส์ - -- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา


4. ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า

อานิสงส์ --- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์


5. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆ เกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน

อานิสงส์ --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาภยศ สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน

6. สร้างพระถวายวัด

อานิสงส์ --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข

ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป

7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์ หรือบวชพระอย่างน้อย 9 วันขึ้นไป

อานิสงส์ --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร

สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา จิตเป็นกุศล

8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย

อานิสงส์ --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง

9. ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ

อานิสงส์ --- ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส เป็นอิสระ

10. ให้ทุนการศึกษา , บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ , อาสาสอนหนังสือ

อานิสงส์ --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา
ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

11. ให้เงินขอทาน , ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)

อานิสงส์ --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้าไม่ตกทุกข์ได้ยาก
เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สินความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน

12. รักษาศีล 5 หรือศีล 8

อานิสงส์ --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา







อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์

1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย

2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น

3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้

4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย

5. มีอายุมั่นขวัญยืน

6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง

7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล

8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน

9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ

10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ

อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้

1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ

2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม

4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย

5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ

6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ ( เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน

7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป

8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช

9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง

10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ


อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์ ( บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ , อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร )

1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา

2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย

3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย

4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป

5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา

6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต

7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา

8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ

9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย

10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่

สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาการ ให้คนได้บวช ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด

หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ







*** ส่งต่อก็ได้บุญ การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
สาธุ

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โรแมนติกจริงๆ (fw:mail)



12 เดือน คือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่าสวยที่สุด.. น่าดูที่สุด ที่จะปรากฏความงามมาให้ดูได้เฉพาะเดือนนั้นๆ เท่านั้น

7 ดาว คือมหัศจรรย์แห่งความสวยงามที่เกิดขึ้นยามค่ำคืนที่น่าสนใจที่สุดของเมืองไทย ที่ใครๆไม่ควรพลาด

9 ตะวัน คือสุดยอดแห่งปรากฏการณ์ภาคกลางวัน ยามที่ธรรมชาติถูกอาบไปด้วยแสงอาทิตย์สรีระของความงดงามจะปรากฏให้เราเห็น

+++12 เดือน+++



มกราคม
สุดยอดเส้นทางชมนางพญาเสือโคร่ง จ.เชียงใหม่

ช่วงฤดูหนาวปลายเดือนธันวาคมถึงต้นมกราคมเป็นวันเวลาที่ดีที่สุด ซึ่งดอกนางพญาเสือโคร่งยามเมื่อต้นทิ้งใบแล้วพากันออกดอกสะพรั่งเป็นสีชมพู
สวยสดใสคล้ายกับดอกซากุระของญี่ปุ่น จะบานสะพรั่งทั้งขุนเขา ฤดูแห่งความโรแมนติกนี้ 1 ปีมีหนเดียวสวยสุดอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ พลาดไม่ได้ปีนี้


บึงสวรรค์ของนกน้ำนับแสนตัว บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์
ช่วงฤดูหนาวราวเดือนมกราคม บึงบอระเพ็ดคือแหล่งดูนกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ด้วยนกน้ำจำนวนนับแสนตัวจะพากันอพยพ
มาอาศัยอยู่บึงน้ำบึงสวรรค์แห่งสรรพชีวิต บึงบอระเพ็ดยังงดงามด้วยทะเลบัวสีชมพูบานสะพรั่งในทุกเช้าก่อน 09.00 น.ซึ่งคุณจะไม่เคยพบเห็นได้ในที่อื่นใดสวยงามเท่านี้



กุมภาพันธ์


ชมพูภูคา แหล่งเดียวที่พบเห็นได้บนดอยภูคา จ.น่าน
นี่คือที่เดียวในโลกซึ่งสามารถพบเห็นดอกไม้ชนิดนี้
ชมพูภูคาพันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อว่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในโลกชนิดที่
ดอยภูคา จ.น่าน พันธุ์ไม้ชนิดนี้จึงหลงเหลืออยู่ในโลกเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ประเทศไทย ในรอบ 1 ปี พันธุ์ไม้ชนิดนี้จะออก
ดอกสีชมพูเป็นช่อสวยสดใสเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้นต้องไปดู


ถนนดอกไม้ ทองกวาวบานตระการตา จ.พะเยา
เดือนกุมภาพันธ์ฤดูร้อนมาเยือน เส้นทางจาก อ.ดอกคำใต้ไป อ.จุน จ.พะเยาคือเส้นทางสวยที่สุดด้วย
ดอกทองกวาวสีส้มจัดบาน 1 , 000 ต้นตระการตาเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีเส้นทางเช่นนี้อยู่จริงในเมืองไทย



มีนาคม


ชมทะเลสวยกับถิ่นปลาการ์ตูนที่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา
หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีปะการังน้ำตื้นสวยงามที่สุดในประเทศไทย ปลาการ์ตูนและเต่าทะเลที่หาดูได้ยาก นอกจากน้ำทะเลใส
หาดทรายขาว ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ที่นี่ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเลเผ่ามอเก็น เป็นบ้านแสนสวยของปลาการ์ตูนที่พบมากบริเวณช่องเขาขาด
นอกจากนี้ที่เกาะบอน หมู่เกาะสิมิลันซึ่งอยู่ใกล้เคียงยัง เป็นที่ดูกระเบนราหูที่ดีที่สุด


เกาะห้อง มหัศจรรย์ธรรมชาติในป่าเกาะ จ.กระบี่
ในพื้นที่ ป่าเกาะของ จ.กระบี่ เกาะที่สวยที่สุดคือ เกาะห้องซึ่งมีหาดทรายสวยที่สุด ฝูงปลาเยอะที่สุดและทะเลในมหัศจรรย์ที่สุด
เกาะห้องเป็นเกาะใหญ่หนึ่งในป่าเกาะ จ.กระบี่ ที่มีเกาะอยู่มากมายนับร้อยเกาะ เกาะแห่งนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนใครด้วยชายหาดด้านหน้าเกาะโค้งเกือบ
จะเป็นครึ่งวงกลม ร่มรื่นด้วยแนวป่าชายหาดด้านหลัง น้ำทะเลที่นี่เป็นสีเทอคอยส์ และทุกเดือนมีนาคมเกาะแห่งนี้จะเป็นที่รวมของปลาดาวมากมายที่
มาชุมนุมกันน่าอัศจรรย์รวมไปถึงทะเลในที่ซ่อนไว้ซึ่งมุมมองอันวิเศษสุดอีกด้านหนึ่งของเกาะ



เมษายน


ตระการตา ลานผีเสื้อในป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ทุกฤดูร้อนเมื่ออากาศร้อนจัดและแหล่งน้ำเริ่มแห้งเหือดบรรดาเหล่าผีเสื้อกว่า 200 ชนิดจะพากันมาหากินเกลือตามดินโป่งหรือแหล่งน้ำแฉะๆมากมาย
จนบางครั้งบางทีก็อาจพบการอพยพของฝูงผีเสื้อนับแสนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญ มีนกหายากเช่น นกกะลิงเขียดหางหนามเป็นต้น



สามพันโบกมหัศจรรย์แห่งภูผาใต้มหานทีแม่โขง จ.อุบลราชธานี
ทุกฤดูแล้งเมื่อแม่น้ำโขงลดระดับลงโบก นับร้อยนับพันที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำ
ก็ผุดโผล่ขึ้นกลายมาเป็นประติมากรรมหินผาน่าพิศวงที่เรียกว่าสามพันโบก
เฉพาะในเดือนเมษายนเท่านั้นที่จะพบแมงกะพรุนน้ำจืด โผล่ขึ้นมาตามโบกเหล่านี้ให้เห็นอีกด้วย


พฤษภาคม


เที่ยวน้ำหนาวฤดูฝน ไปยลกล้วยไม้ยักษ์เอื้องบุษราคัม จ.เพชรบูรณ์
น้ำหนาว รู้จักกันดีว่าป่าเปลี่ยนสีสวยสุดยามต้นฤดูหนาว แต่ใครเล่าจะรู้ว่าช่วงต้นฤดูฝนบนภูกุ่มข้าวซึ่งมีทุ่งหญ้าและป่าสนสวยที่สุดของน้ำหนาว ที่นี่มีสิ่งมหัศจรรย์
ซ่อนอยู่ต้องไปดูคือ กล้วยไม้ยักษ์เอื้องบุษราคัม ซึ่งความสูงใหญ่ของมันอาจสูงได้เกิน 2 เมตรช่อดอกเหลืองอร่ามราวบุษราคัมตามชื่อเรียก


ชมกระทิงฝูง กลางป่าดงพญาเย็น จ.นครราชสีมา
หลังจากฝนแรกเดือนเมษายนผ่านไปหญ้าอ่อนก็จะแตกใบ นี่คือวันเวลาดีที่สุดที่กระทิงจะออกมาหากินตามทุ่งหญ้า โป่งสัตว์และ
แหล่งน้ำซับ แหล่งดูกระทิงวันนี้ที่เห็นง่ายที่สุด คือ คลองปลากั้ง เขาแผงม้า จ.นครราชสีมา และตาพระยา ผืนป่า จ.สระแก้ว

มิถุนายน


เที่ยวชมผืนพรมทะเลหญ้า เขียวขจีสวยที่สุดในเมืองไทย ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก
ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าสะวันนาทุ่งหญ้าสีทองสวยงามมาก เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน ทุ่งหญ้าแห่งนี้จะเขียวขจีประดุจผืนพรมธรรมชาติ โดยเฉพาะดอก
กระเจียวขาวนับหมื่นดอกจะแทงช่อขึ้นจากภายใต้ผืนพรมเขียวขจีนี้ นอกจากนั้น ก็เป็นเส้นทางขี่จักรยานที่มีสภาพธรรมชาติดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยอยู่


เปราะภูในสายหมอกที่แปกดำ ภูหลวง จ.เลย
มนต์ขลังของฤดูฝนบนภูหลวงนั้นคือสายหมอกฉ่ำเย็น นี่เป็นวันเวลาของดอกเปราะภูสีชมพูซึ่งจะพากันบานสะพรั่งทั้งผืนป่า
ที่นั่นดอกเปราะภูสีชมพูสวยสดกำลังพากันออกดอกสะพรั่งทั้งผืนป่า มีเวลาสวยที่สุดอยู่แค่เดือนเดียวพลาดปีนี้ ต้องรออีกปีหนึ่งถึงจะมีโอกาสอีกครั้ง

กรกฎาคม


ชมกระเจียวบานในม่านฝนที่เทือกเขาพังเหย จ.ชัยภูมิ
ทุ่งกระเจียว สวยสุดแห่งปีมีได้เฉพาะต้นฤดูฝนบนเขาพังเหยตั้งแต่เทพสถิต ป่าหินงามไปจนถึงไทรทองแหล่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกล
พบว่ามุ่งกระเจียวสวยไม่แพ้กันซ่อนอยู่สีสดงดงามและดอกใหญ่กว่า โดยเฉพาะวันที่สายหมอกโปรยปรายให้ภาพงามอัศจรรย์สวยจริงๆ น่าต้องไปดู



ภูหินร่องกล้า มหัศจรรย์ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง แหล่งลิ้นมังกรสีชมพู จ.พิษณุโลก
ฤดูฝนบนภูหินร่องกล้าคือวันเวลาวิเศษสุดในธรรมชาติ ทั้งพืชพันธุ์นานา โลกของเฟิร์นเขียวขจี และแหล่งกล้วยไม้ลิ้นมังกรสีชมพู น้ำตกหมันแดง อีกหนึ่งความงาม
ของภูหินร่องกล้าซึ่งพบกล้วยไม้ลิ้นมังกรสีชมพูและบีโกเนียสีขาว ขึ้นอยู่หน้าน้ำตกชั้นที่ 5 เป็นสัญลักษณ์ความงามที่พบได้เฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปีเท่านั้น


สิงหาคม


ชมผาเดียวดายไปดูทุ่งหญ้าข้าวก่ำ เขาใหญ่ ป่าใกล้กรุง จ.นครราชสีมา
ฤดูฝนบนเขาใหญ่มีของดีซ่อนไว้ให้ไปค้นหา คือหน้าผาเดียวดายแหล่งชมวิวป่าดงพญาเย็นอันยิ่งใหญ่ และโลกแห่งสีสันของหญ้าข้าวก่ำดอกไม้สีม่วงงามฤดูฝน


ปีนภูดูทะเลดอกไม้ในป่าสนบนภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์
ภูสอยดาวได้ชื่อว่าสวยสุดในเมืองไทย โดยเฉพาะในช่วงกลางฤดูฝนที่ทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วงบานสะพรั่งทั่งภู คือภาพความสวยงามของทุ่งหญ้า
และป่าสนสามใบมุมมองสวยงามแปลกตากว่าที่ใด ในรอบปีมีวันเวลาที่สวยงามที่สุดคือ ช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งดอกหงอนนาค จะออกดอกสะพรั่งท่าม
กลางป่าสนที่มักปกคลุมไปด้วยสายหมอกจนได้ชื่อว่าเป็นที่สุดยอดโรแมนติกที่สุดที่หนึ่งในเมืองไทย


กันยายน


ยลโลกสีเขียวป่าดึกดำบรรพ์โลกล้านปี ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ป่าดึกดำบรรพ์ย้อนยุคราวป่าโลกล้านปีสวยที่สุด คือ ป่าอ่างกาหลวงบนยอดดอยอินทนนท์ ฤดูฝนบนนี้คือวันมหัศจรรย์ธรรมชาติที่คุณต้องไปดู
ยอดดอยอินทนนท์ สูงที่สุดในเมืองไทยถึง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งรวมของพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะ
ช่วงฤดูฝนซึ่งผืนป่าอ่างกาหลวงฉ่ำเย็นไปด้วยสายหมอกจนตามต้นไม้มีมอสเฟิร์น


ไปเฝ้าดูเหยี่ยวอพยพนับแสนตัว จ.ชุมพร
ฤดูอพยพของฝูงนกนานาชนิดจากซีกโลกภาคเหนือเช่น ไซบีเรีย และประเทศจีน มักจะเริ่มต้นที่ราวเดือนกันยายนของทุกปี
ทุกปีฝูงเหยี่ยวอพยพ เช่น เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ เหยี่ยวต่างสี นกอินทรีเล็กจะพากันบินมาถึงจุดนี้ได้อย่างตรงเวลา น่าตื่นตาตื่นใจนับแสนตัวตลอดฤดู


ตุลาคม


ที่สุดในเมืองไทย สุดยอดผจญภัยไปล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง จ.น่าน
ลำน้ำว้า ท้าทายนักผจญภัยให้ไปสัมผัส ผืนป่ากว้างใหญ่ ลำน้ำสวยใส เหลือแต่ใจว่าคุณพร้อมหรือไม่เพราะ แก่งที่นี่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดในเมืองไทย
นี่คือสุดยอดความประทับใจที่คุณจะไม่มีวันลืมในชีวิต

อาณาจักรแห่งสีสันลานดอกไม้ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

บนลานหินทรายผาแต้ม เมื่อปลายฤดูฝนมาถึงเหนือลานหินที่ชุ่มฉ่ำ จะกลับกลายเป็นอาณาจักรดอกไม้สีทองละลานตาได้อย่างน่าประหลาด
ทั้งสร้อยสุวรรณารวมถึงดอกไม้กินแมลงชนิดอื่นให้ออกดอกสวยงามเผื่อล่อแมลงให้มาเป็นเหยื่อให้มันดักจับกินได้อย่างน่าทึ่ง ทะเลแห่งสีสันมวล
ดอกไม้นี้จะมีอยู่ที่ลานหินเหนือน้ำตกสร้อยสวรรค์มากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีไม่มีที่ใดงดงามเท่า

พฤศจิกายน


ดอยแม่อูคอ ขุนเขาแห่งทุ่งบัวตอง ทะเลดอกไม้สีทอง จ.แม่ฮ่องสอน

เมื่อลมหนาวเดือนพฤศจิกายนพัดมา นั่นเป็นสัญญาณธรรมชาติว่าดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอจะพากันออกดอกสะพรั่งทั้งดอยดั่งทะเลดอกไม้สีทอง
ดอยแม่อูคออยู่ในเขต อ.ขุนยวม เป็นแหล่งของดอกบัวตองที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย เวลาที่สวยงามที่สุดควรดูในตอนเช้าเมื่อแสงแรกของวันสาดส่อง
เพราะสีทองของดอกจะเปล่งประกายเป็นทองมากกว่าเวลาอื่นใด

พลับพลึงธารบานเร้นลับ ที่ผืนป่าคลองนาคา จ.ระนอง

พลับพลึงธาร คือ ที่สุดของความเร้นลับอย่างหนึ่งในผืนป่าคลองนาคา เดือนพฤศจิกายนทุกปีทั้งคลองนาคาจะเต็มไปด้วยดอกไม้หายากชนิดนี้
ความงามของดอกพลับพลึงธารไม้น้ำหายากซึ่งพบที่เดียวในเมืองไทยในคลองนาคา ซึ่งเดือนพฤศจิกายนคือเดือนที่พลับพลึงธารบานทั้งคลองนาคามากที่สุด

ธันวาคม


ท่องป่าปิด ชมเมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่ภูกระดึง จ.เลย

เมเปิ้ล เปลี่ยนสีอาจมีอยู่หลายแห่งในเมืองไทย แต่จะหาที่ไหนสวยงามไปกว่าเมเปิ้ลในป่าปิดของภูกระดึงนั้นไม่มี ที่นี่จึงเป็นที่สุดแห่งความงาม
ทุกฤดูหนาวเมเปิ้ลจะพากันเปลี่ยนสีของใบเป็นสีแดงสดบ้างก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินเป็นภาพที่งดงามที่สุด

พายเรือลอดถ้ำข้าม 2 อำเภอที่ถ้ำเจ็ดคต แหล่งผจญภัยแห่งใหม่ จ.สตูล

ถ้ำขนาดใหญ่แหล่งผจญภัยด้วย การพายเรือลอดถ้ำที่โค้งถึง 7 โค้ง 7 คด งดงามด้วยหินงอกหินย้อย หาดทราย กลายเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่เมืองสตูล
ก็ต้องถือว่าสุดยอดเพราะพายเรือลอดถ้ำข้ามมาตั้ง 2 อำเภอ ที่เดียวในเมืองไทยไม่มีที่ไหนทำได้อย่างนี้

+++7 ดาว +++

1.จองพารา เทศกาลแห่งสีสันวันแห่ปราสาทไม้เกี๊ยะ จ.แม่ฮ่องสอน

เมื่อถึงวันออกพรรษาทุกๆปีที่ จ.แม่ฮ่องสอน จะมีเทศกาลงานประเพณียิ่งใหญ่ของชาวไต ด้วยการสร้างปราสาทไม้เกี๊ยะจุดเทียน
ประดับไฟนับหมื่นนับแสนดวง งามเสียจนราวกับเมืองสวรรค์ ในยามค่ำคืนกันทุกบ้านเรือน วัดวาอารามต่างๆก็จะจุดผางจุดเทียนสว่างไสว
นับเป็นเทศกาลแห่งสีสันวันออกพรรษาที่หาดูได้ที่นี่ทีเดียวเท่านั้นในเมืองไทย ครั้งหนึ่งในชีวิตเป็นบุญตาคุณต้องไปดูให้ได้

2.ไหลเรือไฟ เทศกาลจุดไฟลอยน้ำโขง จ.นครพนม

1 ปีมีเพียงครั้งเดียวที่มหานทีแม่โขงยามราตรีจะมีสีสันงามจับตาด้วยการจุดเรือไฟปล่อยลอยไปด้วยแรงศรัทธา
ตระการตาด้วยแสงไฟลุกโชติช่วง ทั้งโลกหาดูได้ที่นี่ที่เดียวที่ จ.นครพนม

3.อลังการดาวอยู่บนดิน เทศกาลแห่ดาว จ.สกลนคร

ค่ำคืนวันฉลองเทศกาลคริสต์มาส ไม่มีที่ไหนจะตื่นตาตื่นใจได้เท่าที่นี่ คนเมืองสกลนครเขาจินตนาการดาวบนท้องฟ้าเอามาแห่อยู่บนดิน
เป็นเทศกาลรื่นเริงสนุกสนานกว่าคริต์มาสที่ไหนๆในเมืองไทย ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร

4.คืนมหัศจรรย์นอนนับดาวที่มอหินขาว เสาหินมหัศจรรย์ จ.ชัยภูมิ

เสาหินยิ่งใหญ่แปลกตากว่าที่ใดในเมืองไทยต้องยกให้มอหินขาว เมืองชัยภูมิ วันฟ้าโปร่งใสใครได้นอนนับดาวที่นี่จะรู้ว่า
พลังมหัศจรรย์เหนือจินตนาการบน ฟากฟ้าของดาวล้านดวงมีจริง

5.อลังการมรดกโลกเมืองเก่าอยุธยายามราตรี จ.พระนครศรีอยุธยา

อยุธยาเมืองมรดกโลกอันภาคภูมิใจของคนไทย ใครก็อาจเคยไปมาแล้ว แต่ทว่า ยามเมื่อแสงแห่งวันสิ้นไป ราตรีเริ่มมาเยือน วัดวาอารามซึ่งประดับด้วยแสงไฟ
คือความงามล้ำลึกเรืองรอง อยุธยาสวยที่สุดคือเวลานี้พลาดไม่ได้ ทุกเวลาเมื่อแสงสุดท้ายแห่งวันสิ้นลงแสงไฟประดับประดา ตามโบราณสถานต่างๆจะค่อยๆ
เจิดจรัสราวเนรมิตให้ราชธานีศรีอยุธยาเรืองรองขึ้นมาอีกครั้งเหมือนอดีตอันรุ่งโรจน์แต่วันวาน

6. ตระการตาพิพิธภัณฑ์มังกรทองล้ำค่า หนึ่งเดียวในเมืองไทย จ.สุพรรณบุรี

พิพิธภัณฑ์รวมเผ่าพันธุ์คนไทยเชื้อสายจีนเมืองสุพรรณบุรีนั้นความยิ่งใหญ่ไม่เหมือนใครคือ สร้างเป็นมังกรยักษ์โลดแล่นทะยานฟ้า
คราเมื่อใกล้ค่ำ มังกรยักษ์ตัวนี้จะกลายร่างได้เป็นมังกรทองล้ำค่า ถ้าไม่ไปไม่เห็นไม่รู้ไม่เชื่อ

7.ที่สุดความโรแมนติก พระจันทร์วันเพ็ญขึ้นที่อ่าวประจวบฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์

หากใครจะถามหาที่สุดความโรแมนติก สถานที่หนึ่งซึ่งใครปฏิเสธไม่ได้นั่นคือ อ่าวประจวบฯ พระจันทร์วันเพ็ญที่นี่คุณจะไม่มีวันลืม
ถ้าได้ไปเห็นกับตา มีเวลา 2 วันเท่านั้นใน 1 เดือนคือ วันขึ้น 15 ค่ำและแรม 1 ค่ำ จันทร์เพ็ญกลางอ่าวแห่งนี้คุณจะไม่มีวันลืมว่าที่นี่คือสุดยอดโรแมนติกเมืองไทย


+++9 ตะวัน +++

1. ชมทะเลหมอก 360 องศา ที่ดอยกาดผี จ. เชียงราย

ดอยกาดผี มีดีไม่เหมือนใครทะเลหมอกสวยแต่ดูได้รอบตัว 360 อาศา ดอยกาดผีแหล่งชมทะเลหมอกใหม่ล่าสุด สวยสุดและมหัศจรรย์ที่สุดของ จ.เชียงราย
ซ่อนความงามอยู่ในเทือกดอยวาวี อ.แม่สรวย เดินทางจากเชียงรายใช้เวลาราว 3 ชม รถยนต์สามารถขึ้นถึงได้ มุมมองสวยสุดอยู่ด้านตะวันออกเป็นพานอรามา
เห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน แต่มุมอื่นก็สามารถดูได้รอบตัว

2. เวียนเทียนกลางน้ำ หนึ่งเดียวในโลก ที่กว๊านพะเยา จ.พะเยา

เทศกาลเวียนเทียน ที่ไหนๆก็มีในเมืองไทย แต่แห่งเดียวไม่เหมือนใครคือที่ จ.พะเยา เขาลอยเรือเวียนเทียนกันกลางน้ำโดยเท้าไม่ติดดิน
หนึ่งปีมี 3 หนเท่านั้น คือ วันมาฆบูชา วิสาขบูชาและอาสาฬหบูชา กลางกว๊านพะเยา จ.พะเยา ที่นี่มีวัดร้างโบราณพบไม่นานมานี้คือวัดติโลกอาราม
ถึงวันเทศกาลเวียนเทียนผู้คนเมืองนี้เขาเวียนเทียนไม่เหมือนที่ใดในโลก โดยเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเขาจะนำดอกไม้ธูปเทียนบูชาจุดไฟสว่างไสว
ล่องเรือไปเวียนเทียนบูชาองค์พระปฏิมากลางน้ำ 3 รอบ แห่งเดียวในโลกมีอยู่ที่นี่

3. ตะวันขึ้นเหนือทะเลหมอก สวยในฝัน ที่ดอยแม่ระเมิง จ.ตาก

ทะเลหมอกสวยสุดเมืองไทยหนึ่งในนั้นคือ ดอยแม่ระเมิง จ.ตาก ที่หลายคนว่าเป็นทะเลหมอกในฝัน วันปลายฤดูฝนต้นหนาว
ตะวันเหนือทะเลหมอกที่นี่มีดีจนคุณพลาดไม่ได้อีกแล้ว

4. มหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู จ.ตาก

น้ำตกทีลอซู น้ำตกที่ได้ชื่อว่า สวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใครปีนถึงชั้นบนจะพบว่ามีความงามซ่อนอยู่ในวันเวลามหัศจรรย์รุ้งกินน้ำหน้าน้ำตก
เห็นได้ทุกเช้าช่วงฤดูน้ำมาก หากใครปีนขึ้นไปเที่ยวชมบริเวณน้ำตกชั้นบนสุดในเวลาช่วงเช้าก็จะพบว่ามีพลังแห่งแสงที่สาดล่องผ่านละอองน้ำที่ฟุ้งกระจาย
กลายเป็นสายน้ำตกงดงามด้วยรุ้งกินน้ำตัวโตที่พาดผ่านอย่างน่าอัศจรรย์

5. วันแห่งพลังดวงอาทิตย์พิศวง ที่ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

1 ปีมี 4 วันเท่านั้นดีที่สุด
ที่คนโบราณคิดสร้างปราสาทหินพนมรุ้งให้มีวันที่ตะวันขึ้นหรือตกลอดช่องประตูทั้ง 15 ช่อง
ได้ตรงอย่างน่าพิศวงปรากฏการณ์แบบนี้ชีวิตหนึ่งต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองสักครั้ง

6. อัศจรรย์ลำแสงแห่งองศาของความลงตัว ที่ถ้ำพระยานคร จ.ประจวบคีรีขันธ์

ถ้ำพระยานคร นั้นสวยงามไม่เหมือนใคร ในองศาของแสงที่ลงตัวตามวันเวลาและฤดูกาลนี่คือลำแสงแห่งความงามอันเป็นที่สุด
ด้วยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางถ้ำ ยามที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนเวลาราว 11.00 น.
ลำแสงแห่งองศาของความลงตัวจะสาดส่องผ่านปล่องเบื้องบนลงสู่พลับพลาที่ประทับงามราวกับเมืองสวรรค์ ด้วยพลับพลานั้นจะกลายเป็นสีทองสุกสกาวได้ราวกับทองคำ

7. ชมพระอาทิตย์ตก ทะเลสวยที่สุดเมืองไทย ที่แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต

หนึ่งเดียวมุมมองสวยที่สุดในการ ชมพระอาทิตย์ตกทะเล และได้รับการประกาศเป็นจุดสำคัญทางดาราศาสตร์จุดหนึ่งของเมืองไทย
แม้จะรู้จักกันดีว่านี่คือแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ของเกาะภูเก็ต แต่แหลมพรหมเทพก็ยังเป็นสัญลักษณ์อันมั่นคงที่คนมาภูเก็ตต้องไปดู
พระอาทิตย์ตกทะเลผ่านดงตาลและปลายแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ วันเวลาพิเศษสุดพลาดไม่ได้

8. สุดยอดมุมมองชมพระอาทิตย์ตกได้จากในถ้ำ ที่ถ้ำพระนาง จ.กระบี่

มุมชมพระอาทิตย์ตกที่วิจิตรพิสดารกว่าที่ใดอยู่ในถ้ำพระนาง จ.กระบี่ พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยที่สุดต้องมุดเข้าไปดูออกมาจากในถ้ำ
ใครไม่เคยเห็นต้องไปพิสูจน์ พระอาทิตย์ตกดูจากในถ้ำก็สวยได้ไม่เคยคิด

9. พิสูจน์พลังแสงแห่งมรกต ที่ถ้ำมรกต จ.ตรัง

ทุกวันเวลาในยามบ่ายเมื่อพลังแสงแห่งดวงตะวันสาดส่องลอดเข้ามาภายในถ้ำทะเลบริเวณปากทางเข้าสู่ถ้ำมรกตด้านใน
พื้นน้ำแถบนั้นก็พลันเปล่งประกายเป็นสีมรกตได้อย่างไม่น่าเชื่อ

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สูตรแห่งความสุข...ตำราชีวิตประจำวัน (fw-mail)

สูตรแห่งความสุข...ตำราชีวิตประจำวัน  B y สุทธิชัย หยุ่น
พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้...บอกว่าเป็น สูตรแห่งชีวิตประจำวัน
ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก , ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...

ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ
เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น ตำราแห่งชีวิต ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อหา
และคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา , ใครจะทำก็ได้ , ไม่ทำก็ได้ ,
เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล , ไม่บังคับยัดเยียดกัน , ไม่ต่อว่าต่อขานกัน , แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไร
ให้กับชีวิตของตนเอง , ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุน สมควรที่จะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง

สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้
 ๑.    ดื่มน้ำให้มาก      
   ๒.    กินอาหารเช้าเหมือนราชา , รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น ,
       
ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า , และกลาง ๆ ตอนเที่ยง
         
และตกเย็นแล้ว , ทำตัวเป็นยาจก , ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
   ๓.กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน , พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
   ๔.ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E... นั่นคือ energy หรือพลังงาน , enthusiasm หรือกระตือตือร้น
       และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก
   ๕.   หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
   ๖.    เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง , อย่าเครียดกันนักเลย
   ๗.   อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
   ๘.   นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
     ๙.    นอนวันละ 7 ชั่วโมง
   ๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที , แล้วแต่จะสะกวด , ไม่ต้องเครียดกับมัน , วันไหนไม่ได้เดิน ,
         ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
   ๑๑.ระหว่างเดิน , อย่าลืมยิ้ม
    นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ , หากทำเป็นกิจวัตร ,
 
ชีวิตก็จะแจ่มใส , แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลา
 
ของตนเอาไว้ วันนี้ทำไม่ได้ , พรุ่งนี้ทำก็ได้ แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการ
 
ผัดวันประกันพรุ่ง , ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
   
สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพ

 ๑.   อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณ
       
อย่างไรบ้าง
   ๒.    อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย , ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
   ๓.   อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
   ๔.   อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
   ๕.   อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะ
       
ทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
   ๖.   จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
     ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็น
       
ต้องมีแล้ว
   ๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของ
       
อีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
   ๙.   ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
   ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น , จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
   ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
   ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตร
       
ซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
   ๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
   ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่าง
       
กันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
     
แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ ?
   ๑.       อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย
   ๒.     จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
   ๓.      จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
   ๔.      จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
   ๕.      พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
   ๖.       คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก   หน่อย
   ๗.      งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก
แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณ
       
ในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น , อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
 

และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
     ๑.    ทำสิ่งที่ควรทำ
     ๒.    อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ , ไม่สวย , ไม่น่ารื่นรมย์ , จงทิ้ง
       
ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม ?
     ๓.    เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
     ๔.   ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด , เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
     ๕.   ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน , จงลุกจากเตียง , แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้า
       
คนที่เราร่วมงานด้วย... get up, dress up and show up.
     ๖.    สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง