วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

เลี่ยงอาหาร 7 อย่าง ยามท้องว่าง

"หากใครเคยหิว..จนมือไม้สั่น
ไม่มีแรงพอที่จะออกไปซื้ออาหารมารับประทาน
เหมือนทุกครั้ง หรือหาอาหารอะไรก็ได้ใส่ท้อง
เพียงแค่ปรทังชีวิต...

โดยที่ไม่คำนึงถึงสุขภาพเท่าที่ควรนั้น
..ในวันนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวัง
และเอาใจใส่ในเรื่องอาหารการกินมากขึ้นแล้ว

เพราะอาหารบางประเภทไม่เหมาะที่จะรับประทาน
ในช่วงท้องว่าง ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น..

ลองมาดูกัน"



  • นมและถั่วเหลือง
เมนูยอดนิยมสำหรับใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสะดวกในการรับประทานหรือประหยัดเวลา นมมักเป็นคำตอบแรกเวลาหิว แต่แม้จะอุดมด้วยโปรตีนและเชื่อว่าการดื่มนมเยอะๆ จะมีประโยชน์นั้น แท้ที่จริงแล้วการดื่มนมและถั่วหลืองเช่นน้ำเต้าหู้จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อกระเพาะอาหารมีสารประเภทแป้งอยู่ ดังนั้น การเลือกรับประทานนมตอนท้องว่างจะทำให้ท้องอืดได้
  • น้ำตาลหรืออาหารหวาน
การที่คนเราเสียพลังงานไปเยอะนั้น จริงอยู่ว่าร่างกายต้องได้รับการเสริมสร้างจากเกลือแร่และน้ำตาลเมื่อเรารู้สึกอ่อนเพลีย แต่ทว่าหากท้องว่างแล้วนั้น การเลือกดื่มน้ำหวาน หรือของหวาน เช่น น้ำอัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต เพราะจะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาล ซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิดและลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไตได้
  • ผัก
บางคนอาจคิดว่าการทานผักเยอะๆ แทนข้าว โดยเฉพาะนาทีที่ต้องการลดควมอ้วนนั้น เป็นความคิดที่ผิดและไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนแล้ว การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่างจะทำให้ท้องอืด
  • กล้วย
คนส่วนใหญ่มักเชื่อกันว่า การทานกล้วยเยอะๆ จะทำให้ระบบขับถ่ายดี แต่มักลืมกันไปว่าหากทานกล้วยในช่วงเวลาตอนท้องว่างแล้ว นอกจากจะทำให้ท้องอืด ยังจะเพิ่มธาตุแมกนีเซียมในเลือดให้สูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ อันเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก
  • ชาแก่
ตื่นเช้าแล้วจิบน้ำชาสักแก้ว ดูแล้วเข้าท่าและน่าจะดี แต่หารู้ไม่ว่าการจิบชาร้อนโดยเฉพาะชาแก่ช่วงท้องว่างนั้น จะทำให้กรดเกลือของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง เกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง

ลูกพลับ
เป็นอีกหนึ่งชนิดต้องห้ามยามท้องว่าง เพราลูกพลับจะเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเกลือออกมามาก ทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
  • เหล้า กระเทียม
เป็นสิ่งสุดท้ายที่ไม่ควรรับประทานในขณะท้องว่าง เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะมีส่วนเพิ่งแรงกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

อย่างไรก็ตาม ขณะท้องว่างนั้นเราไม่ควรอาบน้ำและออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้ง่าย เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำมาก และเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาเราควรดื่มน้ำอุ่นๆ สัก 1-2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพ อีกทั้งยังช่วยปรับระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย

ที่มาข้อมูล : ASTVผู้จัดการออนไลน์
ที่มาเว็บ : http://www.myfirstbrain.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น