วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ข้าวผัด​ ​ของป้าพัด

ที่มา หนังสือพิมพ์ มติชน


ข้าวผัด​ ​ของป้าพัด



​โดย​ ​ชุติมา​ ​นุ่นมัน​ aae_ok@yahoo.com




ข้าวผัดจาน​นั้น​มี​เนื้อหมูขนาดพอคำ​อยู่​ 7 ​ชิ้น​ ​ไข่​ไก่​ 1 ​ฟอง​ ​รสชาติกลมกล่อม​ ​ถือ​ได้​ว่าอร่อยที​เดียว​ ​แม้​ไม่​ได้​ใส่​ผงชูรส​ "ป้าพัด" ​หรือ​พัฒนา​ ​เสียงเสนาะ​ ​คนผัด​และ​เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง​ ​ร้าน​เล็กๆ​ ​ใน​ซอยประชาสงเคราะห์​ 24 ​บอกว่า​ ​จานนี้ทำ​พิ​เศษ​ ​จึง​ใส่​หมู​ให้​เยอะหน่อย​ ​เพราะ​ถ้า​ใส่​เยอะขนาดนี้ทุกจาน​ ​แล้ว​ขาย​ใน​ราคา​แค่​ 25 ​บาท​ ​ร้านของแกคง​จะ​อยู่​ไม่​ได้​แน่สำ​หรับยุคนี้

"คน​ใน​ซอยนี้ก็​ไม่​ได้​รวยมา​จาก​ไหน​ ​หา​เช้า​กินค่ำ​ ​เป็น​ลูกจ้าง​เขา​ทั้ง​นั้น​ ​ขายแพงกว่านี้คง​ไม่​มี​ใครซื้อป้าหรอก"

ป้าพัดบอกว่า​ ​อาหารตามสั่งของแกขายจานละ​ 20 ​บาท​ ​มาตั้งแต่ปี​ 2542 ​หาก​เป็น​ข้าวไข่​เจียว​ ​หรือ​ไข่ดาวฟองเดียวก็​ 10 ​บาท​ ​แต่ละวัน​ได้​กำ​ไร​ไม่​ต่ำ​กว่า​ 200-300 ​บาท​ ​โดย​ที่ตัวแก​และ​ครอบครัว​ ​คือ​ ​ลูกๆ​ 4 ​คน​ ​กิน​อยู่​เสร็จสับไป​กับ​อาหาร​ใน​ร้านนี้​เลย​ 200-300 ​บาท​ ​ดังกล่าว​จึง​ถือ​เป็น​เงินเก็บสำ​หรับครอบครัว​ ​ที่​สามารถ​นำ​ไปซื้อ​ความ​สะดวกสบายอย่าง​อื่น​ได้

"ตอน​นั้น​ข้าวของ​ยัง​ไม่​แพง​ ​ผักคะน้ากิ​โลละ​ 10 ​บาท​ ​ข้าวสารถังละร้อยเดียว​ ​หมูก็กิ​โลละ​ 40 ​บาท​ ​น้ำ​มันถุงละ​ 16 ​บาท​ ​ข้าวร้านป้า​ใช้​ข้าวหอมมะลิ​ ​ปน​กับ​ข้าวเสา​ไห้​ ​เพราะ​ถ้า​ข้าวแข็งมากเรากิน​ไม่​ได้​ ​ลูกค้าก็บ่น​ ​ต้อง​ยึดเอาตัวเรา​เป็น​หลัก​ด้วย​ ​เรา​ไม่​ชอบ​ ​แล้ว​ลูกค้า​จะ​ชอบ​ได้​ยัง​ไง"

แต่ราว​ 5-6 ​ปีต่อมา​ ​ข้าวของแพงขึ้น​ ​แก​จึง​ขยับราคา​จาก​ 20 ​บาท​ ​เป็น​ 25 ​บาท​ ​แต่​ยัง​คง​ไว้​ซึ่ง​ปริมาณ​และ​คุณภาพครบครัน​ไม่​มีขาดตกบกพร่อง​จาก​เดิม



"คนที่มากิน​ส่วน​ใหญ่​ก็ลูกค้าประจำ​ทั้ง​นั้น​ ​ป้าจำ​ได้​หมดว่า​ใครชอบอะ​ไร​ ​คนที่ทำ​งาน​ใช้​แรงมากๆ​ ​หรือ​เด็กนักเรียนวัยรุ่น​จะ​กินเยอะ​ ​เราก็ตักข้าว​ให้​เยอะ​ไปเลย​ ​คือ​ ​กะ​ให้​กินที​เดียวอิ่ม​ ​หรือ​ถ้า​ใครอยาก​ได้​อะ​ไรพิ​เศษก็บอก​ ​จะ​ทำ​ให้​ ​ร้านเรา​ไม่​มีน้ำ​แข็งแต่มีน้ำ​เปล่า​ ​เป็น​น้ำ​ใน​ตู้​เย็นที่ป้า​และ​คน​ใน​ครอบครัวดื่มนั่นแหละ​ ​ไม่​ต้อง​ซื้อน้ำ​หรือ​น้ำ​แข็งเปล่ากินอีก"

มา​ถึง​ปีนี้​เกิดปรากฏการณ์ข้าวยากหมากแพง​ ​ทุกอย่างขึ้นราคา​กัน​หมด​ ​ยกเว้นค่าจ้าง​ ​กับ​ข้าวสดที่ป้าพัด​ต้อง​ไปจ่ายทุก​เช้า​ขยับราคา​จาก​เดิมอีก​ 3 ​เท่า​ตัว​ ​องค์ประกอบของการ​ใช้​ชีวิตประจำ​วันทุกอย่างก็สาระพา​เฮโล​กัน​ขึ้นราคา​ทั้ง​หมด​ ​ตั้งแต่ค่ารถเมล์​ ​ค่ามอเตอร์​ไซค์รับจ้าง​ ​ค่า​ไฟ​ ​ค่า​แก๊สหุงต้ม​ ​ฯลฯ​ ​แต่ป้าพัด​ยัง​ยืนยันว่าอาหารตามสั่งที่ร้านแก​ ​จะ​ไม่​ขึ้นราคา​เด็ดขาด

"ขึ้น​ได้​ยัง​ไงละลูกเอ๊ย​ ​ขึ้น​แล้ว​ใครที่​ไหน​จะ​กิน​ ​จาก​ 25 ​บาท​ ​เป็น​ 30 ​หรือ​ 35 ​บาทเนี่ย​ ​มันโหดไป​ ​ป้าทำ​ไม่​ได้​หรอก" ​หญิงชราบอกเสียงเศร้าๆ

"​ใครๆ​ ​เค้าก็ขึ้นราคา​กัน​ทั้ง​นั้น​ ​ข้าวราดแกง​ 2 ​อย่าง​ ​บางร้านขาย​ 40 ​บาท​ยัง​มี​เลย​ ​ป้าขาย​ 25 ​บาท​ ​จะ​ได้​กำ​ไรอะ​ไร​กัน"​ ​เธอทักท้วง​

หญิงชรายิ้มอย่างใจเย็นบอกว่า​ ​ถ้า​ขึ้นราคาก็คง​ไม่​มี​ใครกิน​ ​แก​จึง​ใช้​วิธีลดปริมาณข้าวของที่​จะ​ต้อง​นำ​มาปรุงลงเสียบ้าง​

"​เนื้อสัตว์​เราก็ลดชิ้นลงเสียหน่อย​ ​หรือ​จะ​ตักข้าวทีก็ยั้งๆ​ ​มือบ้าง​ ​แต่บางทีก็อด​ไม่​ได้​ ​ป้าชอบสงสารคนซื้อ​ ​บางเมนู​เราก็​เลิกขายไปเลย​ ​เช่น​ ​ข้าวเปล่า​กับ​ไข่ดาว​ ​ที่​เดิมขาย​ 10 ​บาท​ ​ตอนนี้​ไม่​ได้​แล้ว​ ​เพราะ​ ​เทน้ำ​มัน​ ​ติดแก๊ส​ ​ก็​ไม่​คุ้ม​แล้ว​ ​ของบางอย่างที่ร้านป้าลดคุณภาพ​ไม่​ได้​ ​โดย​เฉพาะข้าวสาร​ ​ถึง​จะ​แพงแสนแพง​ยัง​ไงป้าก็​ยัง​ใช้​ข้าวหอมมะลิ​ ​หุงปน​กับ​ข้าวเสา​ไห้​เหมือนเดิม​ ​ไม่​งั้นมัน​จะ​แข็ง​ ​กิน​ไม่​ได้​เลย"



องค์ประกอบ​เล็กๆ​ ​น้อยๆ​ ​ใน​ร้านอาหารที่หลายๆ​ ​คนอาจ​จะ​มองข้ามทุกอย่าง​เป็น​ต้นทุน​ทั้ง​หมด​ ​อย่างน้ำ​ปลาพริก​ ​พริกก็ขึ้นราคา​ ​มะนาวใบละ​ 4 ​บาท​ ​แตงกวากิ​โลละ​ 50 ​บาท​ ​ใครสั่งไข่​เจียวหมูสับ​ ​นอก​จาก​ไข่​ ​หมู​ ​และ​น้ำ​มันขึ้นราคา​แล้ว​ ​ซอสพริก​ ​และ​ซอสมะ​เขือเทศ​ ​ก็ขึ้นราคาอีก​ด้วย

"​ใคร​ใส่​ซอสเยอะๆ​ ​ป้าอาจ​จะ​มี​เหล่ๆ​ ​บ้าง​ ​แต่​ไม่​ได้​ห้าม" ​แกพูดพร้อม​กับ​อมยิ้ม

อดคิด​ถึง​ตัวเอง​ไม่​ได้​ที่ชอบไปตลาดตอนเย็นๆ​ ​หรือ​พลบค่ำ​ ​เพราะ​ช่วงเวลา​นั้น​ผัก​จะ​ราคาถูกมาก​ ​เนื่อง​จาก​พ่อค้า​แม่ค้า​เห็นว่าหากขาย​ไม่​หมดผักคง​จะ​เหี่ยวทิ้งไปเปล่าๆ​ ​จึง​ต้อง​เอามา​เลหลัง​ ​ใส่​จานขาย​ ​จานละ​ 10 ​บาท​ ​เลือกดีๆ​ ​จะ​ได้​ผักดีๆ​ ​ไปเก็บ​ใส่​ตู้​เย็นกิน​ได้​หลายวันเหมือน​กัน

ป้าพัดยิ้ม​กับ​คำ​บอกเล่าของ​ผู้​ไปเยือน​ ​แต่​แกแย้งว่า​ ​บางคนมีทางเลือก​ ​แต่​แม่ค้าอย่างแกเลือกเวลา​ไม่​ได้​ ​จะ​ต้อง​ทำ​มาหากินตั้งแต่​เช้า​ ​คง​ไม่​สามารถ​รอจังหวะ​เวลาการซื้อเช่น​นั้น​ได้​

แล้ว​ทุกวันนี้ป้า​ได้​กำ​ไรวันละ​เท่า​ไหร่​ ​อยู่​ได้​หรือ​คะ​ ​ผู้​ไปเยือนสงสัย

หญิงชรายิ้มอีกครั้ง​ ​เป็น​ยิ้มแบบฝืนๆ

"ขายดีหน่อยก็​ได้​วันละ​ 100 ​บาท​ ​ตั้งแต่​ 7 ​โมง​เช้า​ ​ถึง​ 3 ​ทุ่ม​ ​วันไหนขาย​ไม่​ดีก็​ได้​ไม่​ถึง​ร้อย​ ​ยัง​ดีที่ตอนนี้ลูกๆ​ ​เรียนหนังสือจบ​กัน​หมด​แล้ว​ ​และ​บ้าน​ไม่​ต้อง​เช่า​ ​ค่าน้ำ​ ​ค่า​ไฟ​ ​ลูก​ช่วย​ออก​ ​แต่​ยัง​ต้อง​เลี้ยงหลานอีกคน​ ​ต้อง​จ่ายค่า​ไปโรงเรียน​ ​ค่าชุดนักเรียน​ให้​เขา​ ​ลำ​พังกำ​ไร​จาก​อาหารตามสั่ง​ไม่​พอหรอก​ ​ป้า​จึง​หาราย​ได้​พิ​เศษ​ด้วย​การขายลอตเตอรี่​ ​อันนี้ขายดี​ ​เพราะ​แต่ละงวดคนหันมาตั้ง​ความ​หวัง​กับ​ตรงนี้มากขึ้น​ ​ได้​กำ​ไรงวดละพันสองพัน​ ​พอ​เป็น​ค่ายา​ ​เพราะ​ตอนนี้ป้า​ต้อง​ไปหาหมอบ่อย​ ​เนื่อง​จาก​ปวดหลัง" ​ป้าพัดบอก

โชคดีอีกอย่างของชาวชุมชนซอยแสนสุข​และ​ป้าพัดคือ​ ​ชุมชนนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์​ ​เครดิตยู​เนี่ยน​ ​ที่คน​ใน​ชุมชนมากกว่า​ 80% ​เป็น​สมาชิก​ ​ใครที่ขาดเหลืออะ​ไร​ ​สามารถ​พึ่งพาตรงนี้​ได้​ ​ไม่​ต้อง​ไปกู้​เงินนอกระบบ​ ​และ​นอกเหนือ​จาก​อาชีพแม่ค้าอาหารตามสั่ง​แล้ว​ ​ป้าพัด​ยัง​เป็น​อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน​ ​และ​เป็น​ตำ​รวจบ้าน​ใน​ชุมชนแห่งนี้​ด้วย​

"บางครั้ง​ ​การทำ​กิจกรรม​อื่นๆ​ ​นอกเหนือ​จาก​ที่​ต้อง​ดิ้นรนเพื่อปากท้อง​ใน​ชีวิตประจำ​วัน​ ​ก็ทำ​ให้​เราลืม​ความ​ทุกข์​ได้​เหมือน​กัน​ ​ทำ​ให้​รู้​ด้วย​ว่ามีคนที่​เป็น​ทุกข์​และ​ขาดแคลนมากกว่า​เราอีกหลายคน"

เที่ยง​แล้ว​ ​ลูกค้าของป้าพัดทยอย​เข้า​มาสั่งอาหารถี่ขึ้น

25 ​บาท​ ​แลก​กับ​ 1 ​มื้อ​ ​ที่นี่อาจ​จะ​ไม่​อิ่มพุงกางสำ​หรับหลายๆ​ ​คน

แต่มันก็ทำ​ให้​หายหิว​ได้​เหมือน​กัน

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11 พฤษภาคม 2551 เวลา 13:26

    ก็น่าเห็นใจทั้งคนขายคนซื้อทานค่ะ
    เมื่อก่อนนาซื้อส้มตำแล้วจะชอบแยกซื้อขนมจีนเส้นเปล่าๆราคา 5 บาทด้วย

    กินคนเดียวสองมื้อไม่หมดนะ

    แต่มาวันนี้ 5 บาทไม่ขายอ่ะ
    ขาย 10 ขึ้น อั้ยเราก็คิดในใจขาย 5 แต่ลดปริมาณลงก็ได้ ก็จะกินจะทานคนเดียว ไม่อิ่มก็จะกลับมาซื้อใหม่ค่ะ (คือเดินมาซื้อเองได้ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันรถสักหน่อย)

    สำหรับข้าวผัดป้าพัด แห่ะๆ
    ในแง่ของคนกิน..ถ้าเป็นนา
    ก็อยากให้มีหลายๆราคาได้ป่ะ
    มีทั้ง 20 25 30 35 บาท

    ปริมาณแปรผันตามราคา..ประมาณนี้
    ส่วนความอร่อยหรือคุณภาพยังคงเดิม
    หรือจะดีขึ้นกว่าเดิมยิ่งดีใหญ่เลย

    เวลาคนซื้อกิน...เราก็ซื้อตามความหิว
    หิวมากก็ซื้อมาก หิวน้อยก็ซื้อน้อย
    แต่ว่า..เงินน้อย หิวมาก ซื้อมาก
    คงต้องคิดก่อนกินล่ะ^^"

    สำหรับนาเอง...ชอบนะ
    เวลาข้าวมีราคาแพงขึ้นมากๆ...
    เพราะว่าที่บ้านทำนาข้าว

    แต่ไม่รู้ว่า...พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว
    มันจะยังตรึงราคาสูงๆไว้อยู่หรือเปล่านี่สิ :D

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ8 มีนาคม 2552 เวลา 00:11

    ขอบคุณมาก ๆ นะครับสำหรับข้อมูล

    ตอบลบ